วันนี้ (19 พฤศจิกายน) ชูศักดิ์ ศิรินิล สส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความเห็นต่างระหว่างสภากับรัฐบาล กรณีเมื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อสภาแล้วจะยุบสภาไม่ได้ โดยฝ่ายสภาถือเอารัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เป็นหลัก ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าต้องบรรจุญัตติอภิปรายเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาเสียก่อนตามข้อบังคับการประชุมสภานั้น
ชูศักดิ์กล่าวว่า ตนเองเห็นด้วยที่ประธานรัฐสภามีความเห็นเช่นนั้น คำตอบที่ชัดเจนที่สุดคือทำไมรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 จึงเขียนว่ายื่นญัตติแล้วยุบสภาไม่ได้ คำตอบเพราะเมื่อก่อนเมื่อมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว มีการยุบสภาหนี ที่เรียกว่าหนีการซักฟอกไม่ต้องการถูกตรวจสอบ ไม่รวมถึงการใช้วิธีอื่นๆ เช่น ให้ผลประโยชน์กันแล้วให้ไปถอนชื่อ ทำให้ชื่อไม่ครบ
ชูศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนตัวถ้าเป็นรัฐบาล หากฝ่ายค้านอยากจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยื่นเลย รัฐบาลมีสิทธิชี้แจงได้อยู่แล้ว อย่าไปคิดว่าจะโดนด่าฟรี ดีเสียอีกจะได้เคลียร์ตนเอง เว้นแต่จะรู้สึกว่าเคลียร์ลำบาก เคลียร์ไม่ได้
ส่วนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการตั้งประเด็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่กำลังพิจารณากันอยู่ขณะนี้ ควรจะเสร็จวาระสามก่อนแล้วค่อยยื่นอภิปรายหรือไม่ ชูศักดิ์กล่าวว่า เนื่องจากรัฐบาลไปทำ MOA กันไว้ เข้าใจได้ว่าต้องให้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ผ่านวาระสามเสียก่อน จึงจะยุบสภา ถ้ายุบสภาก่อนผ่านวาระสาม ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมจะตกไป ซึ่งไม่ใช่เพราะการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เพราะรัฐบาลยุบสภาก่อนวาระสาม
ชูศักดิ์กล่าวว่า ในฐานะกรรมาธิการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พรรคเพื่อไทย อยากให้การพิจารณาของกรรมาธิการเสร็จโดยเร็ว แม้ร่างของเพื่อไทยจะตกไปในวาระที่หนึ่ง ก็คงโต้แย้งและสงวนความเห็นไว้เป็นหลัก การพูดว่าจะเอาร่างรัฐธรรมนูญไว้เป็นตัวประกันจริงๆ แล้วไม่เกี่ยวกัน ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านวาระสามหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ จะได้เสียงเกินครึ่ง หรือได้เสียงวุฒิสภาถึงหนึ่งในสามหรือไม่ ก็ยังไม่รู้เช่นกัน แม้ไม่อภิปรายก็อาจจะตกไปก็ได้
ส่วนปัญหาว่าพรรคเพื่อไทยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ เมื่อไร ชูศักดิ์กล่าวว่า คณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคกำลังพิจารณาอยู่ แต่ที่รัฐบาลเสนอแนะว่าให้อภิปรายตามมาตรา 152 (อภิปรายโดยไม่ลงมติ) คงเป็นไปไม่ได้


