วันนี้ (14 พฤศจิกายน) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำรวจนครบาล (บช.น.) ได้เปิดเผยผลการปฏิบัติการสนธิกำลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่นำไปสู่การทลายเครือข่ายจีนเทาที่ลักลอบเปิดเว็บพนันออนไลน์ข้ามชาติ
ปฏิบัติการดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2568 โดยเจ้าหน้าที่จากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด บช.น. (ศอ.ปส.บช.น.) และ ป.ป.ส. ได้นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจสอบห้องพักในคอนโดมิเนียมย่านห้วยขวาง แขวงดินแดง กรุงเทพฯ หลังได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่ามีกลุ่มชาวจีนมั่วสุมต้องสงสัยว่าเสพยาเสพติด
เจ้าหน้าที่ต้องใช้ยุทธวิธีบุกเข้าจับกุมเนื่องจากผู้ต้องหามีความระแวดระวังตัวและไม่ยอมเปิดประตูห้อง จนกระทั่งเวลา 13.30 น. เมื่อมีคนร้าย 1 ราย เข้ามาที่ห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงบุกตามเข้าไปทันที ผลการตรวจค้นพบชายชาวจีน 3 ราย และชาวเมียนมา 1 ราย โดยไม่พบยาเสพติดใดๆ ในห้องพัก และไม่พบสารเสพติดในร่างกายของผู้ต้องหาทั้งสี่คน
อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นกลับพบ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 4 เครื่อง และ โทรศัพท์มือถือ 10 เครื่อง ซึ่งมีข้อมูลการทำหลังบ้านของเว็บพนันออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น การปั่นสล็อต, แทงฟุตบอล, บาสเก็ตบอล, และบาคาร่า พร้อมของกลางอื่น ๆ อาทิ อุปกรณ์โทเคน OTP และบุหรี่เถื่อน 7 กล่อง
เจ้าหน้าที่จึงจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้แก่ Li Youngzhao, Luo Li, LIU JIANQUAN สัญชาติจีน และ Chit Maw Maw Htay สัญชาติเมียนมา ในข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันเอาทรัพย์สินทางอิเล็กทรอนิกส์, ร่วมกันนำของต้องเสียภาษีสรรพสามิตเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ชำระภาษี และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการขยายผลเพิ่มเติม ผู้ต้องหาให้การว่าเพิ่งย้ายจากประเทศกัมพูชาเข้ามาในประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยว แต่เจ้าหน้าที่กลับพบโพยลับ ในโทรศัพท์มือถือของเครือข่ายชาวจีน ที่ใช้เพื่ออำพรางตัวเป็นนักเรียน โดยระบุถึงวิธีการหลอกตบตาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)
เช่น การให้ตอบว่ากำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง และห้ามทำงานในรัศมี 3-5 กิโลเมตรจากที่พักที่กำหนดในช่วงที่มีการตรวจสอบ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดตั้งเครือข่ายอย่างเป็นระบบ
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าเข้ามาประเทศไทยเพื่อฝึกภาษาไทยและท่องเที่ยว ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากคำให้การไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมที่สืบสวนพบ หลังการจับกุมตัว พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ดำเนินการขยายผลคดีนี้อย่างละเอียดต่อไป


