ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ไม่เห็นด้วยและมีความกังวลกับร่างกฎหมายที่ขาดการประเมินผลกระทบกฎหมาย (Regulatory Impact Assessment: RIA) อย่างรอบด้านและเป็นระบบ โดยเฉพาะร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาด และร่างพระราชบัญญัติโรงงาน ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่จะต้องเผชิญกับภาระต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นจากข้อกำหนดทางกฎหมายใหม่
นอกจากนี้ ยังห่วงว่า ร่างพ.ร.บ. 3 ฉบับนี้จะยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติและลดความน่าสนใจของประเทศไทยในการดึงดูดการลงทุนใหม่
ดังนั้น กกร. จึงเห็นว่าการจัดทำกฎหมายที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้างต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ โปร่งใส เปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง พร้อมจัดทำการประเมินผลกระทบกฎหมาย (RIA) ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล เพื่อให้กฎหมายมีความสมดุลระหว่างการคุ้มครองและการรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว
ที่ประชุม กกร. มีมติสนับสนุนแนวทางดำเนินงานของภาครัฐในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติยกระดับการบริหารงานภาครัฐให้มีความทันสมัย พ.ศ. .. เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดระบบราชการให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองความต้องการประชาชนได้ทันเวลา พร้อมทั้ง สนับสนุนการขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. …. (ร่างฯ พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกฯฉบับใหม่) ให้มีผลใช้บังคับ รวมไปถึง สนับสนุนแนวทางปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ (Regulatory Guillotine) เพื่อยกระดับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจและการให้บริการประชาชนไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้านการบริหารภาครัฐและการปฏิรูปกฎหมาย
โดย กกร. จะดำเนินการร่วมกับรองนายกรัฐมนตรี ศาสตราจารย์กิตติคุณ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
กังวล ร่าง พ.ร.บ. แรงงาน กระทบทั้งลูกจ้างและนายจ้าง
ทั้งนี้ กกร. ไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาในสภาฯ โดยย้ำว่าอาจส่งผลกระทบต่อทั้งนายจ้างและลูกจ้าง พร้อมยืนยันว่าได้มีหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร กรรมาธิการ และพรรคการเมืองทุกพรรคแล้ว หลังร่างกฎหมายผ่านวาระ 1 และกำลังเข้าสู่วาระ 2
ด้าน พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ชี้ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ใช่กฎหมายของรัฐบาลหรือกระทรวง แต่เป็นข้อเสนอจากพรรคการเมือง ซึ่งหลายประเด็นไม่สอดคล้องกับกฎหมายแรงงานที่ใช้ในต่างประเทศและมาตรฐานทั่วไป อีกทั้งการประเมินผลกระทบยังไม่ครอบคลุม
นอกจากนี้ พจน์ยังระบุอีกด้วยว่า หลายข้อกำหนดไม่สามารถทำได้จริงในภาคปฏิบัติ เช่น เงื่อนไขการทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ที่อาจทำให้ลูกจ้างดำรงชีพได้ยาก พร้อมย้ำว่าการประกาศร่างกฎหมายบนเว็บไซต์ให้ผู้เกี่ยวข้องติดตามเองไม่เพียงพอ เนื่องจากเป็นกฎหมายมหาชนที่กระทบเศรษฐกิจในวงกว้าง จึงควรเข้าหาผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด เห็นชอบหลักการ แต่ขอปรับรายละเอียดภาคปฏิบัติ
กกร. ระบุว่าเห็นด้วยกับหลักการเรื่องอากาศสะอาด และย้ำถึงความจำเป็นต้องร่วมมือกัน แต่ได้รับการร้องเรียนจำนวนมาก โดยเฉพาะจากภาคเกษตร ซึ่งจะต้องเผชิญความยากลำบากหากไม่มีการปรับรายละเอียด กกร. จึงขอให้พิจารณารายละเอียดให้รอบคอบ และเปิดรับฟังความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ร่าง พ.ร.บ. โรงงาน ค้านต่อใบอนุญาตทุก 2 ปี และเพิ่มโทษอาญา
สำหรับประเด็นร่าง พ.ร.บ. โรงงาน กกร. ระบุว่า ได้หารือจนปรับถ้อยคำจาก ‘อุตสาหกรรมอันตราย’ เป็น ‘สินค้าควบคุมพิเศษ/โรงงานควบคุมพิเศษ’ เพื่อลดผลกระทบด้านภาพลักษณ์ในภาษาอังกฤษ
อย่างไรก็ตาม ประเด็นการต่อใบอนุญาตโรงงานทุก 2 ปี นั้น กกร. มองว่าระยะเวลาสั้นเกินไปเมื่อเทียบกับปกติที่ 10 ปี และการเพิ่มโทษอาญาอาจกระทบขวัญและกำลังใจของนักลงทุนได้ ซึ่งไม่ตรงกับจุดประสงค์ Ease of Doing Business
เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การเพิ่มน้ำหนักอย่างนี้ทำให้ขวัญและกำลังใจนักลงทุนไทยและต่างชาติเสียไป แถมไม่ตรงกับจุดประสงค์ Ease of Doing Business ฉะนั้น เราคัดค้าน และขอให้ทบทวนใหม่”
เตรียมแถลงใหญ่สัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ พจน์ เผยว่า กกร. เตรียมจัดแถลงข่าวใหญ่ในวันพุธหน้า โดยจะมีการเชิญสมาคมผู้ประกอบการและตัวแทนลูกจ้างทั่วประเทศ มาร่วมแสดงจุดยืนต่อร่างกฎหมายดังกล่าว เนื่องจากกังวลว่าหากเดินหน้าตามเดิมจะกระทบการจ้างงานและขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
“เพราะถ้าขืนออกกฎหมายมาตามนั้น รับรองการจ้างงานจะหายไปเยอะเลย ขีดความสามารถในการแข่งขันไทยจบ นักลงทุนต่างชาติจะชะงักคิดใหม่ ทบทวนกันทันทีเลย” พจน์ กล่าว


