วันนี้ (30 ตุลาคม) เวลา 15.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นเมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พบหารือทวิภาคีกับอีแช มยอง (H.E. Mr. Lee Jae Myung) ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ระหว่างการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
โอกาสแรก ประธานาธิบดีเกาหลี ได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้เกียรติเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมเอเปคในช่วงที่ไทยโศกเศร้า ประธานาธิบดีเกาหลียังซาบซึ้งในการที่ไทยได้ส่งทหารไทยเข้าร่วมสงครามเกาหลีด้วย
ทั้งสองฝ่ายแสดงความยินดีที่ได้พบหารือกันเป็นครั้งแรก หลังจากที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้โทรศัพท์มาแสดงความยินดีในโอกาสที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรียังชื่นชมเมืองคย็องจูว่าเป็นเมืองที่งดงามและเปี่ยมด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาของไทย พร้อมเชิญประธานาธิบดีเกาหลีใต้เยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสแรก เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ
นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเสนอให้ทั้งสองประเทศตั้งเป้าหมายการค้าให้ถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเขตการค้าเสรี (FTA) เป็นเครื่องมือสำคัญ และหวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถสรุปประเด็นที่คั่งค้างได้โดยเร็ว
พร้อมยืนยันว่าไทยจะให้การดูแลนักลงทุนเกาหลีใต้อย่างเต็มที่ ทั้งในโครงการของ Hyundai, COSMAX, KakaoBank ที่จะจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ไร้สาขาในไทย และบริษัท Korea Land & Housing Corporation (LH) ที่จะตั้งนิคมอุตสาหกรรมเกาหลีใต้แห่งแรกในไทย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงการที่เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล จะนำคณะนักธุรกิจเกาหลีใต้มาหารือความร่วมมือกับภาคเอกชนไทยในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งไทยยินดีต้อนรับและพร้อมอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงความร่วมมือด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ว่า คนไทยนิยมวัฒนธรรมเกาหลี โดยเฉพาะ K-Pop อย่างกว้างขวาง จนเยาวชนไทยจำนวนมากสนใจเรียนภาษาเกาหลี และชื่นชมเกาหลีใต้ที่เป็นหนึ่งในประเทศผู้นำด้านการผลิตคอนเทนต์ของโลก พร้อมระบุว่าจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยศึกษาระบบนิเวศด้านอุตสาหกรรมคอนเทนต์ของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะการสนับสนุนสตาร์ตอัปและ SME ทั้งด้านทักษะและงบประมาณ
นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่าไทยจะสนับสนุนบทบาทของเกาหลีใต้ในฐานะประเทศคู่เจรจาของอาเซียน และประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียน-เกาหลีใต้
ในช่วงท้ายของการหารือ นายกรัฐมนตรียังได้ขอประธานาธิบดีพิจารณาเพิ่มจำนวนแรงงานถูกกฎหมาย ที่จะมาทำงานเกาหลี รวมทั้งช่วยดูแลปัญหาที่คนไทยและนักท่องเที่ยวไทยถูกปฏิเสธการเข้าเมืองเมื่อเดินทางมาถึงเกาหลีแล้ว ส่งผลเกิดสูญเสียในการเดินทาง ทั้งเงิน และเวลาด้วย



