OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหม่ให้กับวงการครีเอทีฟทั่วโลก ด้วยการประกาศเปิดตัว แอปพลิเคชัน ‘Sora’ อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ววันนี้ (30 ตุลาคม 2568) ทำให้ไทยเป็น หนึ่งในประเทศแรกๆ ของเอเชีย (พร้อมกับเวียดนามและไต้หวัน) ที่ได้เข้าถึงประสบการณ์การสร้างวิดีโอด้วยเทคโนโลยี AI เจเนอเรชันใหม่นี้
การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ตอกย้ำว่าประเทศไทยคือบ้านของชุมชนครีเอทีฟที่ทรงพลังที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค และพร้อมที่จะปลดล็อกคลื่นลูกใหม่ของการเล่าเรื่องด้วยเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในยุคนี้
หลังจากที่แอป Sora เปิดตัวในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็ได้สร้างปรากฏการณ์มียอดดาวน์โหลดทะลุ 1 ล้านครั้งภายในเวลาไม่ถึง 5 วัน และในวันนี้ที่แอป Sora มาถึงมือคนไทยแล้ว
The Standard Wealth สรุป 10 ประเด็นสำคัญที่คุณควรรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาปฏิวัติวงการสร้างสรรค์วิดีโอล่าสุดนี้
1. Sora คืออะไร?
Sora คือโมเดล AI รุ่นใหม่ล่าสุด (Sora 2) จาก OpenAI ที่มีความสามารถในการสร้างวิดีโอคุณภาพสูงและสมจริงได้อย่างน่าทึ่งจากคำบรรยาย (Prompt) ที่เป็นข้อความธรรมดา เพียงแค่คุณพิมพ์สิ่งที่จินตนาการไว้ Sora ก็จะสร้างวิดีโอนั้นให้คุณบนหน้าจอได้ทันที โดยผลิตภัณฑ์หลักในปัจจุบันคือ ‘แอป Sora’ ซึ่งเป็นแอปโซเชียลบน iOS ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดล Sora 2
2. เริ่มต้นใช้งานอย่างไร?
สามารถดาวน์โหลดแอป Sora บน iOS App Store ได้ฟรีตั้งแต่วันนี้ โดยไม่ต้องใช้รหัสเชิญ เพียงแค่ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี OpenAI (หรือสมัครใหม่) หลังจากยืนยันอายุ ระบบจะให้คุณตั้งชื่อผู้ใช้และเริ่มสร้างสรรค์ผลงานได้ทันที ผู้ใช้สามารถอัปโหลดภาพเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ หรือเลือกสไตล์วิดีโอที่ต้องการได้ เช่น แนวภาพยนตร์ แอนิเมชัน หรือคอนเทนต์สำหรับโซเชียลมีเดีย
3. ‘Cameo’ ฟีเจอร์พลิกโลกที่ทำให้คุณเข้าไปอยู่ในวิดีโอได้
นี่คือหนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ‘Cameo’ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างตัวละครดิจิทัลของตนเองเข้าไปอยู่ในวิดีโอที่ AI สร้างขึ้นได้ เพียงแค่บันทึกวิดีโอและเสียงสั้นๆ หนึ่งครั้งเพื่อยืนยันตัวตนและบันทึกใบหน้าและเสียงของคุณอย่างปลอดภัย คุณสามารถกำหนดได้เองว่าใครสามารถใช้ Cameo ของคุณได้บ้าง และสามารถเพิกถอนสิทธิ์หรือลบวิดีโอที่มี Cameo ของคุณออกได้ทุกเมื่อ
4. ‘Remix’ การต่อยอดจินตนาการอย่างไร้ขีดจำกัด
เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มโซเชียลยุคใหม่ Sora มีฟีเจอร์ ‘Remix’ ที่อนุญาตให้คุณนำผลงานวิดีโอของครีเอเตอร์คนอื่นมาสร้างต่อยอดในมุมมองของคุณเองได้ โดยทุกคลิปที่ถูก Remix จะมีการระบุที่มาอย่างชัดเจน ทำให้สามารถติดตามเส้นทางของแรงบันดาลใจนั้นได้
5. รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ
Sora รองรับการใช้งานภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถป้อนคำสั่งเป็นภาษาไทยเพื่อสร้างวิดีโอที่สะท้อนวัฒนธรรม อารมณ์ขัน หรือสไตล์แบบไทยได้อย่างแม่นยำ
วู้ดดี้ มิลินทจินดา หนึ่งในผู้ที่ได้ทดลองใช้ Sora กลุ่มแรก กล่าวว่า “Sora ไม่ใช่แค่ทำให้สิ่งที่เราจินตนาการไว้ในหัวกลายเป็นจริงเท่านั้น แต่ยังเปิดประตูให้ได้เห็นคอนเทนต์สุดล้ำจากครีเอเตอร์ทั่วโลก การได้เห็นพลังสร้างสรรค์ระดับโลกนี้เองที่จุดประกายให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ๆ อย่างไม่สิ้นสุด”
6. ใครเป็นเจ้าของวิดีโอที่สร้างด้วย Sora?
คำตอบคือ คุณคือเจ้าของผลงานทั้งหมด คุณสามารถดาวน์โหลด แชร์ แก้ไข และเผยแพร่ผลงานได้ตามต้องการ ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้นโยบายการใช้งานของ OpenAI
7. หากผลลัพธ์ไม่ตรงใจ?
คุณสามารถสั่งให้ระบบสร้างใหม่ หรือปรับแก้ได้ทันที เช่น “ทำให้การเคลื่อนไหวสมูทขึ้น” “เพิ่มแสง” หรือ “ทำให้คลิปสั้นลง” ระบบจะเรียนรู้ความตั้งใจของคุณเพื่อพัฒนาผลลัพธ์ให้ตรงใจยิ่งขึ้นในครั้งต่อไป
8. เปิดตัวอย่างรับผิดชอบ ออกแบบมาเพื่อ ‘สร้าง’ ไม่ใช่ ‘เสพ’
OpenAI ย้ำว่าแอปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ “สร้าง” (Create) มากกว่า “เสพ” (Consume) โดยฟีดเริ่มต้นจะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เลื่อนดูอย่างไม่สิ้นสุด แต่จะเน้นเนื้อหาที่สร้างแรงบันดาลใจจากคนที่คุณติดตาม เพื่อกระตุ้นให้คุณสร้างผลงานของตัวเอง
9. ระบบความปลอดภัยและ ‘ลายน้ำ C2PA’
ทุกวิดีโอที่สร้างด้วย Sora จะมีทั้งลายน้ำที่มองเห็นได้ และลายน้ำดิจิทัลตาม มาตรฐาน C2PA ที่ไม่สามารถลบหรือปลอมแปลงได้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปยังแหล่งที่มาได้เสมอ นอกจากนี้ ระบบยังมีการป้องกันหลายชั้นเพื่อกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือเป็นอันตราย รวมถึงการป้องกันการสร้างภาพบุคคลสาธารณะ (ยกเว้นเจ้าตัวจะใช้ Cameo เอง)
10. ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่?
ในช่วงเปิดตัว แอป Sora เปิดให้ใช้งานได้ฟรี โดยมีสิทธิการใช้งานที่เพียงพอสำหรับการทดลองและสำรวจความสามารถต่างๆ ทั้งนี้ OpenAI ระบุว่าขีดจำกัดการใช้งานอาจมีการปรับเปลี่ยนในอนาคตตามทรัพยากรการประมวลผล (Compute Constraints)
การมาถึงของ Sora ในประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะปลดล็อกศักยภาพของครีเอเตอร์ไทย และเป็นเครื่องมือใหม่ที่ทรงพลังอย่างยิ่งสำหรับภาคธุรกิจในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ในรูปแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน


