วันนี้ (28 ตุลาคม) ที่ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทนอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งติดภารกิจเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 25 – 28 ตุลาคม ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
พิพัฒน์ กล่าวเปิดการประชุม ครม.ตอนหนึ่งว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีประชุมอาเซียนอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย โดยมีข้อสั่งการฝากตนให้ช่วยชี้แจงดังนี้
1. เรื่องการชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดกิจกรรม และงานต่างๆ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อสาธารณะ รวมทั้งกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์เกี่ยวกับกรณีการงดกิจกรรมเพื่อความบันเทิงนั้น นายกรัฐมนตรีได้ฝากเน้นย้ำกับ ครม. ทุกท่าน เพื่อช่วยกันชี้แจงทำความเข้าใจกับหน่วยงานในสังกัดและประชาชนว่ารัฐบาลไม่เคยมีมติหรือข้อสั่งการให้หน่วยงานราชการ รวมไปถึงภาคเอกชน งดการจัดกิจกรรมใดเป็นการเฉพาะ
เพราะรัฐบาลมีความเข้าใจดีว่าภาคธุรกิจ และการท่องเที่ยวมีการวางแผนกิจกรรมล่วงหน้า และมีต้นทุนในการจัดกิจกรรมต่างๆ ดังนั้นการจัดกิจกรรมทั้งของส่วนราชการและเอกชน โดยเฉพาะกิจกรรมที่จัดขึ้นตามวัฒนธรรม และประเพณีก็ยังคงจัดได้ โดยขอความร่วมมือให้ใช้ดุลพินิจปรับรูปแบบให้เหมาะสม และสมพระเกียรติ เพื่อแสดงออกถึงความเคารพและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ทั้งนี้ ขอฝากให้ทางโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ และความเข้าใจที่ถูกต้องให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงด้วย
พิพัฒน์กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายหน่วยงานต่างๆ เพื่อเตรียมการพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพเป็นไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้องเหมาะสม นายกรัฐมนตรีจึงเห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
1. ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ เพื่อให้การเตรียมการระหว่างพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยถูกต้องและเหมาะสม นายกรัฐมนตรีจึงเห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเพิ่มเติม โดยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่าย ปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้มาร่วมงานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพอย่างเข้มแข็งทั้งในเรื่องการเดินทาง สุขภาพอนามัย อาหารน้ำดื่ม และที่พัก รวมทั้งการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย
2. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ร่วมกับส่วนราชการเก็บรวบรวมข้อมูล การดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับการจัดงานพระราชพิธีทั้งหมด เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติต่อไป
3. ให้กรมประชาสัมพันธ์ ร่วมกับสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ประสานขอความร่วมมือให้สื่อโทรทัศน์และวิทยุ พิจารณาเสนอรายการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจ ตามแนวพระราชดำริในเรื่องต่างๆ เช่น การศิลปาชีพ การพัฒนาฝีมือแรงงาน การเกษตร การชลประทานการศึกษา การสาธารณสุข การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาสังคม และการพัฒนาเศรษฐกิจ
4. มอบหมายให้ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี สำนักงานราชบัณฑิตยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงประชาชน เกี่ยวกับการใช้ถ้อยคำออกพระนาม การใช้ถ้อยคำภาษาเรียกขาน หรือเรื่องต่างๆ ที่เหมาะสม
5. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนด้านการจราจร การถวายอารักขา และการรักษาความปลอดภัย ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
6. ให้กระทรวงวัฒนธรรม เตรียมการเกี่ยวกับการสร้างพระเมรุ โดยขอพระราชวินิจฉัยจากองค์ที่ปรึกษาที่จะดำเนินการแต่งตั้งตามมติครม.เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 เรื่องสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสวรรคต และให้ส่วนราชการอื่นๆ โดยเฉพาะกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย เตรียมความพร้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการเต็มไปด้วยความเรียบร้อย
7. ให้กระทรวงการต่างประเทศ ดูแลและจัดเตรียมการต้อนรับกรณีที่มีพระประมุข ประมุข และพระราชวงศ์ หรือผู้นำแห่งรัฐต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศที่จะเดินทางมาประเทศไทย เนื่องในโอกาสงานพระราชพิธีดังกล่าว
8. ให้กระทรวงวัฒนธรรมจัดพิมพ์หนังสือพระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อแจกจ่ายให้กับ ครม. และประชาชน


