วันที่ 15 ตุลาคม 2568 ณ กรุงเทพฯ, ประเทศไทย บริษัท Quantum Technology Foundation (Thailand) Co., Ltd. (QTFT) และ สถาบันเทคโนโลยีอุตสาหกรรมขั้นสูงแห่งชาติ (AIST) ประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามใน บันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding – MOU) เพื่อร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ควอนตัม และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในภาคอุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศ
ภายใต้ความร่วมมือนี้ ทั้งสององค์กรจะร่วมดำเนินกิจกรรม เช่น
- การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมในสาขาที่มีศักยภาพเชิงอุตสาหกรรม
- การแลกเปลี่ยนนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญ
- การจัดสัมมนาและเวทีวิชาการเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้
(ดร. จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง QTFT (ซ้าย)
และ ศาสตราจารย์ มาซุ คาซูยะ ผู้อำนวยการศูนย์ G-QuAT (ขวา))
เป้าหมายของความร่วมมือคือการสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีและบุคลากร เพื่อให้เทคโนโลยีควอนตัมสามารถนำไปใช้ได้จริงในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น พลังงาน โลจิสติกส์ และการผลิต พร้อมส่งเสริมการเติบโตของระบบนิเวศควอนตัมในระดับภูมิภาค
บันทึกความเข้าใจฉบับนี้ลงนามโดย ดร. จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง QTFT และ ศาสตราจารย์ มาซุ คาซูยะ ผู้อำนวยการศูนย์ G-QuAT แห่งสถาบัน AIST เพื่อยืนยันความตั้งใจร่วมกันในการผลักดันเทคโนโลยีควอนตัมจากการวิจัยสู่การใช้งานจริง
ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งเน้นการพัฒนา ‘Hybrid Quantum Computing’ การผสานเทคโนโลยีควอนตัมเข้ากับระบบประมวลผลแบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณในภาคธุรกิจ เช่น การเพิ่มความแม่นยำในการจำลองโมเดลซัพพลายเชน การบริหารพลังงาน และการปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม
‘ควอนตัม’ ก้าวต่อไปของศูนย์ข้อมูลโลก
ในงานดังกล่าว ดร. จิรวัฒน์ กล่าวถึงทิศทางของเทคโนโลยีควอนตัมว่า
ควอนตัมคอมพิวติงจะเป็นเจเนอเรชันถัดไปของศูนย์ข้อมูล (Data Center) โลก หลังจากยุคของ CPU และ GPU ถึงจุดอิ่มตัวแล้ว เราจำเป็นต้องสร้างแพลตฟอร์มการประมวลผลรูปแบบใหม่ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ระหว่างควอนตัมชิปหรือ QPU และสถาปัตยกรรมเดิม เพื่อแก้โจทย์ที่คอมพิวเตอร์ดิจิทัลทำไม่ได้
QTFT ซึ่งก่อตั้งโดยทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรไทยกว่า 20 คน มีเป้าหมายสร้าง ‘Quantum Whole Chain Intelligent Network’ ระบบอัจฉริยะที่ใช้คณิตศาสตร์และควอนตัมช่วยประมวลผลการตัดสินใจขององค์กรทั้งห่วงโซ่ธุรกิจ โดยมีพันธมิตรในไทยจากหลากหลายอุตสาหกกรมร่วมทดลองใช้งานจริง
AIST ญี่ปุ่น: ฐานกลางเทคโนโลยีควอนตัมระดับโลก
ด้านศาสตราจารย์ มาซุ คาซูยะ จาก AIST เปิดเผยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ลงทุนมหาศาลเพื่อพัฒนา Global Research and Development Center for Business by Quantum-AI technology (G-QuAT) เป็นศูนย์กลางสำหรับวิจัยและทดสอบระบบควอนตัมครบวงจร ทั้งในด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์ GPU กว่า 2,000 หน่วย การทดสอบชิปที่อุณหภูมิต่ำ และระบบควบคุมคิวบิตระดับอุตสาหกรรม
“AIST ไม่เพียงทำวิจัยพื้นฐาน แต่ยังทำงานร่วมกับภาคเอกชนทั่วโลก เพื่อสร้างยูสเคสและการใช้งานจริง เรามุ่งพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมสู่การประยุกต์เชิงพาณิชย์ และสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ด้านวิศวกรรมควอนตัม” — ศ.มาซุ กล่าว
“ไทยต้องมีควอนตัมคอมพิวเตอร์ของตัวเอง”
ดร. จิรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า
ประเทศไทยยังไม่มีควอนตัมคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ซึ่งถือเป็นความจำเป็นในยุคใหม่ หากเรายังไม่มีโครงสร้างพื้นฐานนี้ เราอาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางเทคโนโลยีอีกครั้ง การร่วมมือกับญี่ปุ่นในครั้งนี้คือก้าวสำคัญในการยกระดับศักยภาพของประเทศเข้าสู่ยุคควอนตัมอย่างแท้จริง
MOU ครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการสร้าง ‘เศรษฐกิจควอนตัม’ (Quantum Economy) ในภูมิภาค โดยไทยและญี่ปุ่นจะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวติงยุคใหม่ที่เปลี่ยนจากการ ‘คิดเร็วขึ้น’ สู่การ ‘คิดแบบใหม่’ อย่างแท้จริง
กองบรรณาธิการข่าว
THE STANDARD