วันนี้ (17 ตุลาคม) กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น.ว่า ปริมาณน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยังมีฝนตกในพื้นที่ตอนบน
ที่สถานี C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นจุดวัดน้ำเหนือ ปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 2,776 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยมีระดับน้ำ 24.46 เมตร ซึ่งยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 1.24 เมตร ปริมาณน้ำดังกล่าวส่งผลให้ สถานี C.13 เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ต้องเพิ่มการระบายน้ำ โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.81 เมตร และระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 15.70 เมตร ซึ่งเพิ่มขึ้นและต่ำกว่าตลิ่งเพียง 64 เซนติเมตร
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ทางด้านเหนือเขื่อน พร้อมทั้งเร่งรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำตามศักยภาพของคลอง เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด
จากการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำ ทำให้พื้นที่นอกคันกั้นน้ำบริเวณด้านท้ายเขื่อนเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว ในหลายพื้นที่ ได้แก่:
- จังหวัดอ่างทอง: คลองโผงเผง, วัดไชโย, อำเภอป่าโมก
- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ติดแม่น้ำน้อย): คลองบางบาล ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา, ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่
- จังหวัดสิงห์บุรี: วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี, อำเภอเมืองสิงห์บุรี, อำเภอพรหมบุรี, วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี
- จังหวัดชัยนาท: ตำบลโพนางดำ อำเภอสรรพยา
ทั้งนี้ หากระดับน้ำทางตอนบนยังคงเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาจำเป็นต้องเพิ่มมากขึ้น ทางหน่วยงานจะแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบเป็นระยะต่อไป