×

จับแก๊งไต้หวัน ลอบขนสัตว์ป่าหายากเต่า กิ้งก่า จระเข้ 52 ตัว ยัดถุงน่องมัดขา เตรียมส่งออกดอนเมือง

โดย THE STANDARD TEAM
17.10.2025
  • LOADING...
จับแก๊ง ไต้หวัน ลอบขนสัตว์ป่าหายากเต่า กิ้งก่า จระเข้ 52 ตัว ยัดถุงน่องมัดขา เตรียมส่งออก ดอนเมือง

วันนี้ (17 ตุลาคม) พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา รอง ผบก.ปทส., พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย รรท. ผกก.1 บก.ปทส. และ พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เจริญลาภ รอง ผกก.1 บก.ปทส. นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ปทส. ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานดอนเมือง และเจ้าหน้าที่ศุลกากร เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาชาวไต้หวัน 3 ราย ในขบวนการค้าสัตว์ป่าหายากข้ามชาติ ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพมหานคร

 

ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมประกอบด้วย ชู ชิง ชุง (MR. HSU CHING CHUNG) อายุ 53 ปี, หง จื้อ เสี่ยน (MR. HONG ZHI-XIAN) อายุ 40 ปี และ หยาง จง จู๋ (MR.YANG TSUNG-JU) อายุ 36 ปี พร้อมของกลางเป็นสัตว์ป่าหายากรวมทั้งสิ้น 52 ตัว อาทิ เต่าจักร, เต่าดาวอินเดีย, เต่าแมงมุม, ลูกเต่าดาว 32 ตัว, เต่าปูลู, เต่าภูเขา และ กิ้งก่าจระเข้ 7 ตัว ขณะกำลังเตรียมลักลอบขนลำเลียงส่งออกต่างประเทศ

 

พ.ต.ท.กษิดิ์เดช เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการขยายผลต่อเนื่องจากการจับกุม ชิว ขัวชู (MR. CHIU KUO-SHU) ชาวไต้หวัน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งลักลอบขนสัตว์ป่าหลายรายการ อาทิ นางอาย ตัวนาก และเต่าจักร ออกนอกประเทศผ่านสนามบินดอนเมือง โดยใช้วิธีซุกซ่อนตามร่างกาย

 

กลวิธีการลักลอบขนสัตว์ป่าของขบวนการนี้มีความโหดร้ายทารุณ โดยจะนำสัตว์ป่ามา มอมยาสลบจนหมดสติ จากนั้นนำไป ยัดใส่ถุงน่อง และพันปิดทับด้วยผ้าอย่างแน่นหนา ก่อนจะนำไป ผูกมัดติดกับบริเวณขา เพื่ออำพรางตัว หลีกเลี่ยงการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่

 

หลังการจับกุม ชิว ขัวชู ตำรวจ กก.1 บก.ปทส. ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่ามีเครือข่ายดังกล่าว และเตรียมจะลักลอบขนสัตว์ป่าหายากล็อตใหญ่ออกนอกประเทศด้วยวิธีการเดิมผ่านสนามบินดอนเมืองอีกครั้ง จึงจัดกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งพบบุคคลทั้งสามมีท่าทีพิรุธขณะเตรียมเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อแสดงตัวเข้าตรวจค้นตามร่างกาย จึงพบสัตว์ป่าหายากจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณขาจริง จึงทำการจับกุมพร้อมยึดของกลางได้ทั้งหมด

 

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพว่าอยู่ในขบวนการดังกล่าวจริง โดยทำหน้าที่เป็นคนลักลอบขน ได้ค่าจ้างครั้งละ 30,000 บาท และทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยสัตว์ทั้งหมดรับซื้อต่อมาจากชายไทยรายหนึ่ง ก่อนจะนำไปขายต่อให้กับกลุ่มผู้ชื่นชอบสัตว์ชนิดดังกล่าวที่ประเทศไต้หวัน

 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พยายามส่งออกสัตว์ป่าคุ้มครองและสัตว์ป่าควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และข้อหาตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising