×

Living Quality ของแตงโม-กิตติพร โรจน์วณิช ความสุขคือการ ‘พอใจ’ ในทุกการเดินทางของชีวิต

โดย THE STANDARD LIFE
16.10.2025
  • LOADING...
Living Quality ของ แตงโม-กิตติพร โรจน์วณิช ความสุขคือการ ‘พอใจ’ ในทุกการเดินทางของชีวิต

ในจังหวะชีวิตที่ผู้คนต่างพยายามวิ่งหาความมั่นคงและ ‘ความสำเร็จ’ ตามกรอบของสังคม มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่เลือกที่จะสนุกกับการเดินทางของชีวิตที่ไร้ขีดจำกัด โดยไม่จำเป็นต้องมีเส้นทางอาชีพที่ชัดเจน แต่ใช้สกิลที่รักในการขับเคลื่อนชีวิตและความฝันของตัวเอง LIFE จะชวนผู้อ่านมาสำรวจมุมมองของผู้หญิงที่ชื่อ แตงโม-กิตติพร โรจน์วณิช เธอคนนี้เป็นทั้งนักแสดง ผู้ชนะ Stand-Up Comedy และเป็นยูทูบเบอร์ ผู้ที่นิยามตัวเองเป็น ‘นักเล่าเรื่อง’ ที่รักอิสระและเป็นตัวของตัวเอง 100% โดยค้นพบว่าความพอใจในชีวิตคือ Living Quality ที่ดีที่สุด

 

นิยามของ ‘นักเล่าเรื่อง’ และการเป็น ‘เป็ด’ ที่สร้างสรรค์

 

ครั้งหนึ่งแตงโม เคยนิยามตัวเองว่าเป็น ‘เป็ดที่ยังไม่แน่ใจว่าชีวิตจะไปทางไหน’ และชอบทำอะไร 100 อย่าง ไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ นิยามของ ‘ความเป็นเป็ด’ นี้ได้สะท้อนตัวตนและวิธีการใช้ชีวิตของเธอได้อย่างชัดเจน แม้จะอยู่ในหลายบทบาทก็ตาม
“สำหรับตัวเองก็อาจจะไม่ได้มีชื่อของ career ชัดเจนในแง่ที่ว่า ถูกเรียกเป็นคุณครู หรือเป็นหมออะไรอย่างนี้ แต่เราก็รู้สึกว่าเราเหมือนเป็นนักเล่าเรื่อง เพราะว่าสำหรับเรา พอเราเป็นนักเล่าเรื่องใช่ไหม สิ่งที่เราทำได้ก็มีหลายอย่าง แล้วทุกงานที่เราทำเกือบทุกงานที่เราทำ เรารู้สึกว่ามันดู random มาก แต่ทุกงานที่เรากระโจนเข้าไป
ก็คือ Element ของการเล่าเรื่องทั้งนั้น เราเคยทำคอลัมนิสต์ เคยเป็นคนสัมภาษณ์ เคยทำงานเบื้องหลัง เป็นครีเอทีฟ เป็นทีมสร้างสตอรี่ในเกมโชว์ เรียกว่าทุกอันเราต้องใช้สกิลเล่าเรื่องหมดเลย การเป็นนักแสดง เป็นคอเมเดียน หรือยูทูบเบอร์ มันก็คือการเล่าเรื่องหมด และมันเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา”

 

การเดินทางสู่ Living Quality เหรียญสองด้านของชีวิตในอเมริกา

 

การได้ออกเดินทางไปใช้ชีวิตในต่างแดนเพียงลำพัง ได้ให้อิสระและความรับผิดชอบที่หลากหลาย ทำให้มุมมองต่อชีวิตของแตงโมเปลี่ยนไป
“การไปอยู่ที่อเมริกา มันเป็นการไปอยู่เมืองนอกด้วยตัวคนเดียวครั้งแรก ก็มีความตื่นเต้น มีความแปลกใหม่ มีอิสระอะไรอย่างนี้ แต่ก็มีอีกอันหนึ่งก็คือก็เหมือนต้องมีความรับผิดชอบ มีภาระมากขึ้น เราต้องดูแลตัวเองให้ได้ด้วยค่ะ ที่นั่นทำให้เราได้เจอเพื่อนใหม่ มี culture shock อะไรต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย ที่เราต้องไปอยู่หอพัก ในห้องมีหน้าต่าง เล็กๆ ทำให้เราชอบที่จะออกไปข้างนอก ไปเสพชีวิตแบบเอาต์ดอร์ พอเรียนจบก็ต้องย้ายออกมา ต้องหาวีซ่า ต้องหางาน เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ช่วงเปลี่ยนผ่านตรงนี้มันทำให้เราเคว้งเหมือนกัน ช่วงแรกๆ ไม่ได้เลยก็พยายามอย่างหนัก”

 

พื้นที่ที่น่าอยู่ที่สุด บางครั้งมันก็แค่ความธรรมดาที่มีความสุข



แตงโมยอมรับว่าแม้จะเคยใฝ่ฝันอยากจัดบ้านให้สวยงามเหมือนในนิตยสาร อยากออกแบบเอง อยากเลือกของทุกอย่างมาวางด้วยตัวเอง แต่ในที่สุดเธอก็ค้นพบความหมายที่แท้จริงของบ้านที่สุขที่สุดในแบบของเธอ
“ตอนแรกเราก็เคยเป็นคนหนึ่งที่อยากจัดบ้านให้ดูดี อยากมีบ้านสวยๆ ตามใจเรา แต่ด้วยความที่บ้านอยู่กันเยอะ ตอนนั้นมีทั้งพ่อ แม่ พี่สาว อะไรอย่างนี้ ฝันของเราเลยทำได้ยาก แต่สุดท้ายก็ค้นพบว่า จริงๆ แล้ว บ้านที่น่าอยู่ที่สุดคือบ้านที่มีพ่อของเราอยู่ ปัจจุบันคุณพ่อเสียแล้ว เราก็คงสภาพบ้านของเราไว้เหมือนเดิม ทุกอย่างมันมีเรื่องราว มีคุณค่า มีร่องรอยทุกอย่างของพ่อเราอยู่ตรงนั้น นั่นเป็นครั้งแรกที่เราค้นพบว่าความธรรมดาที่เคยเป็น นั่นต่างหากคือความสุขของเราจริงๆ ทุกวันนี้เราแบบไม่ได้แคร์เลยนะว่าบ้านจะมีหน้าตาเป็นยังไง มันจะรกไหม มันจะตกแต่งสวยไหม สุดท้ายเราก็พอใจกับบ้านของเราที่อยู่มาตั้งแต่เกิด”

 

ช่วงเวลา Living Quality ฉบับแตงโม


“เวลานึกถึงคำว่า Living Quality มักจะย้อนไปคิดถึงเป็นช่วงวัยเด็ก ซึ่งมันชัดเจนมาก เราจำได้ว่าบ้านเรามีบรรยากาศที่คึกคักนะ แบบว่าคุณพ่อ คุณแม่ มีพี่สาวเรา มีน้องหมา เรารู้สึกก็รู้สึกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีมากเลย เราใช้ชีวิตอยู่บนบ้านชั้นสอง อยู่ๆ นึกจะวิ่งลงบันไดมาส่องดูพ่อแม่ที่นั่งเล่นอยู่ข้างล่างแวบหนึ่ง มันก็มีความสุขแล้วอะ แค่ได้ลงมากินข้าวเย็นด้วยกันทุกวันอะไรอย่างนี้ นึกออกไหม สำหรับเรามันคือความธรรมดาที่มีความสุข”

 

Activities to Inspire การเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่เป็นอิสระ


ในฐานะนักสร้างสรรค์ที่ไม่ชอบความหยุดนิ่ง แตงโมชอบที่จะใช้พื้นที่รอบตัวในการสร้างแรงบันดาลใจและเป็นแหล่งพักใจ
“เราเป็นคนไม่หยุดนิ่ง ชอบแสดงออก ชอบที่จะแบบเคลื่อนไหว บางทีตอนเราทำงาน มันจะเป็นแบบ Improvise ตลอดเวลา เราเป็นคนที่ทำงานได้ทุกที่เลยนะ ไม่ว่าจะเป็นระหว่างการเดินทาง อยู่นอกบ้าน ระหว่างนั่งรอรถ หรือยืนรอ BTS ทุกที่เราสามารถใช้เวลาที่มีในการคิดงาน หรือทำงานไปด้วยได้ อาจจะเพราะเราชินเวลาอยู่เมืองนอก รอบตัวมันจะมีเสียงรายล้อมปนเปกันไปหมด ถ้าเราโฟกัสหรือตั้งใจจดจ่อกับงานตรงหน้า แม้คนข้างๆ จะคุยกับเราก็จะไม่ได้ยินเสียงเขาเลย”

 

กิจกรรมที่ช่วยเยียวยาใจในวันที่เหนื่อยล้า


เราก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันนะ ที่เวลานึกย้อนไปถามตัวเองว่าเวลาเครียดๆ มักจะทำอะไร ปรากฏว่าเราเห็นตัวเองแบบอยู่ในครัว เอาจานชามมาล้าง มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เรารู้สึกว่าที่อเมริกา เราอาศัยอยู่บ้านเพื่อน เราก็อยากทำอะไรที่เป็นประโยชน์เพื่อตอบแทนคนอื่นได้ด้วยไง แค่รู้สึกว่า เออ ไปเห็นจานชามกองอยู่แล้วก็ไปจัดการมันซะแบบอัตโนมัติ อีกพื้นที่ที่เราชอบคือชีวิตนอกบ้าน ที่ที่มีคนเยอะๆ”

 

 

พื้นที่ส่วนตัวที่แท้จริง อาจไม่ต้องสมบูรณ์แบบ

 

“พื้นที่อยู่อาศัยที่ตรงกับใจเราที่สุด มันอาจจะหมายถึงพื้นที่เป็นไปตามกาลเวลา ประกอบกับการใช้ชีวิตของเราด้วย เช่น มันอาจจะมีช่วงที่รกรุงรัง แล้วมันก็จะมีช่วงที่สะอาด คือหมายถึงว่าห้องมันจะเป็นไปตามการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมของเรา ไม่ใช่ว่าตรงนั้นห้ามรก ห้ามวางโน่นวางนี่ เราจะไม่พารานอยด์จนเกินไป เพราะนี่คือพื้นที่ของเราจริงๆ ในวันนี้ แม้ชีวิตจะไม่ได้สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็พบความสุขและคำจำกัดความของ Living Quality ในแบบของตัวเองแล้วว่าเราแค่พอใจกับสิ่งที่เราเลือกได้ พอใจกับสิ่งที่เราเลือกที่จะเป็น แค่ทุกวันนี้ได้ลองทำและเป็นนักเล่าเรื่องหลายๆ แบบ มีความตื่นเต้น มีความสนุกที่จะลองอะไรใหม่ๆ โดยที่ไม่ต้องมานั่งคิดเยอะ เราก็แค่ใช้ชีวิตไป แค่นี้ทุกวันก็มีความสุขแล้วค่ะ เราอาจจะเรียกว่า Living Quality ในแบบของเราคือความพอใจในชีวิตที่เป็น ถ้าเราเลือกแล้วก็แสดงว่าก็ต้องพอใจเราสิ แล้วมันจะไม่ดีได้ยังไงล่ะ?”
การมีพื้นที่ที่ช่วยส่งเสริมการค้นหาความสุขในแบบของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นมุมสงบๆ สำหรับการพักผ่อนหรือพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมที่คุณรัก ลองสร้าง Living Quality ในแบบของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แบบไหน เงียบ หรือวุ่นวาย แต่ถ้ามันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ใช่สำหรับคุณ นั่นก็อาจเป็นความธรรมดาที่นำความสุขมาให้ก็ได้นะ

 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising