×

SCB ชูแนวคิด Live Sustainably ดึงหลัก ESG ผสานสู่ Core Value องค์กร

09.10.2025
  • LOADING...
SCB Live Sustainably

หากเอ่ยถึงเรื่องการอยู่อย่างยั่งยืน เชื่อว่าคนไทยตระหนักรู้กันมากแล้ว และหลายคนได้ปรับวิถีการใช้ชีวิตส่วนตัวให้มีส่วนช่วยโลกใบนี้ แต่พลังของคนตัวเล็กๆ อาจยังไม่ทำให้เห็นความเปลี่ยนแปลงมากนัก

 

การขยับวิถีของภาคเอกชนจึงเป็นกำลังสำคัญ ที่สามารถสร้างพลวัตใหม่ให้กับสังคมและเศรษฐกิจไทยได้ โดยเฉพาะภาคธนาคาร ที่เปรียบเสมือนหลอดเลือดหลักของเศรษฐกิจ “และเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ”  ในบทบาทผู้สนับสนุนการเงินสีเขียว หรือการเงินยั่งยืน ได้ตลอดทั้งซัพพลายเชนของทุกธุรกิจ

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เป็น ‘ธนาคารแห่งแรก’ ที่ตั้งเป้า Net Zero 2050 ตามกรอบของ Science Based Target Initiatives (SBTi เพื่อสอดรับพันธกิจความยั่งยืน ซึ่งมาจากแนวคิด “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” (Live Sustainably)

 

เรียกได้ว่า SCB มองความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคนที่ต้องให้ความสำคัญ โดยวางเป้าหมายสู่ความยั่งยืน 3 ระยะ ได้แก่

 

  1. สนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้วยสินเชื่อ  เพื่อความยั่งยืนจำนวน

150,000 ล้านบาท ภายใน 2025  (โดยใช้กรอบการประเมินที่สอดคล้องกับ Sustainable Finance Framework และ Equator Principles”)  

 

  1. ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของธนาคาร (Scope 1-2) ให้เป็น Net Zero ภายในปี 2030

 

  1. เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ตั้งเป้า Net Zero 2050 จากการให้สินเชื่อและเงินลงทุนตามมาตรฐาน Science Based Target Initiatives (SBTi) หนุนภาคธุรกิจก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ มุ่งมั่นเป็นพันธมิตรความยั่งยืนนำพาลูกค้าเติบโตฝ่าความท้าทายสู่เป้าหมาย Net Zero พร้อมเคียงข้างและส่งต่อความยั่งยืนให้แก่ลูกค้า

ควบคู่กับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในสังคม เพื่อให้คนไทยได้อยู่ อย่าง ยั่งยืน

 

ทั้งทางด้านการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานในองค์กรให้เป็นระบบประหยัดพลังงาน และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด เช่น การใช้รถ EV รับ-ส่งพนักงาน และติดตามผลการลดคาร์บอนจากการดำเนินการเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง”

 

SCB มุงมั่นสร้างความเข้าใจในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อน ความยั่งยืน โดยการบูรณาการหลักการเหล่านี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของ การดำเนินงานในชีวิตประจำวัน (Business-as-usual หรือ BAU) และทุกส่วนงานของธนาคาร

 

นอกจากนี้ SCB ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ด้วยการสร้าง วัฒนธรรมองค์กรแห่งความยั่งยืน เพื่อปลูกฝัง DNA ความยั่งยืน ให้กับพนักงานทุกคน โดยจัดให้มีทักษะและหลักสูตรที่หลากหลาย เพื่อให้พนักงานสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

สินเชื่อเพื่อความยั่งยืน

 

SCB มีแผนสนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้วยสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนจำนวน 150,000 ล้านบาท ภายใน 2025 ทั้งนี้ ณ งวดครึ่งแรกปี 2025 ธนาคารได้ปล่อยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนไปแล้ว 180,000 ล้านบาท (นับตั้งแต่ปี 2023) ซึ่งเท่ากับธนาคารบรรลุเป้าหมายก่อนกำหนด สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและประสิทธิภาพของกลยุทธ์ด้าน Sustainable Finance”

 

 

มุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2050 ด้วยมาตรฐาน SBTi

 

SCB ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของธนาคาร (Scope 1-2) ให้เป็น Net Zero ภายในปี 2030 “โดยใช้มาตรฐานการวัดและรายงานตาม GHG Protocol และมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง”และยังเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรอง เป้าหมายการจัดการสภาพภูมิอากาศตามหลักวิทยาศาสตร์ตามมาตรฐาน Science Based Target Initiatives (SBTi) ซึ่งถือเป็นมาตรฐานแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด จากกรอบการดำเนินงานที่อยู่บนพื้นฐานวิทยาศาสตร์ โปร่งใสและตรวจสอบได้

จากกว่า 8,800 องค์กรธุรกิจชั้นนำของโลก SCB เป็นหนึ่งในองค์กรไทยที่เข้าร่วมในกลุ่มผู้นำระดับโลกที่ขับเคลื่อนเป้าหมาย Net Zero อย่างเป็นระบบ ที่ได้ให้คำมั่น หรือประกาศเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ตามกรอบ SBTi

 

 

นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน

 

หนึ่งในแกนหลักของการส่งต่อความยั่งยืน คือการสร้าง ‘Better Society’ ที่ดีกว่าเดิม “ซึ่งเป็นหนึ่งในสามเสาหลักของกลยุทธ์ความยั่งยืนของ SCB ร่วมกับ Sustainable Banking และ Corporate Practice Excellence โดย SCB มุ่งมั่นที่จะพัฒนาสังคมให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำ เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง และร่วมส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีแก่เยาวชน ชุมชน รวมถึงสังคมไทยมาอย่างยาวนานกว่า 3 ทศวรรษ

 

โดยธนาคารให้ความสำคัญกับการสร้างคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพสำหรับโลกอนาคต โดยมุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนผ่านการผสาน เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) และ ดิจิทัล เข้ากับระบบนิเวศ (Ecosystem) ของสังคม เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียมและเป็นรูปธรรม ตัวอย่างความสำเร็จที่ชัดเจนคือความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในการพัฒนาโครงการ Smart University และ Smart Hospital ซึ่งช่วยยกระดับการบริหารจัดการและการบริการด้วยเทคโนโลยี ส่งผลให้มีผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการเหล่านี้แล้วกว่า 400,000 ราย

 

 

พัฒนาบุคลากรอย่างเท่าเทียม

 

Corporate Practice Excellence’ เป็นอีกหนึ่งแกนในการส่งต่อความยั่งยืนให้กับผู้เกี่ยวข้อง โดย SCB ได้จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน และได้กำหนดเป้าหมาย Net Zero 2030 จากการดำเนินงานภายใน ทั้งทางด้านการปรับเปลี่ยนการใช้พลังงานในองค์กรให้เป็นระบบประหยัดพลังงาน และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด

 

นอกจากนี้ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรด้วยการสร้างวัฒนธรรมความยั่งยืนภายในองค์กร พร้อมปลูกฝัง DNA ความยั่งยืนให้พนักงานธนาคารทุกคนด้วยทักษะและหลักสูตรต่างๆ พร้อมบูรณาการให้ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของทุกส่วนงานเพื่อขับเคลื่อนงานด้านความยั่งยืนในองค์กรและช่วยเหลือลูกค้าควบคู่ไปกับแผนการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถของธนาคารตามยุทธวิธี AI-First Bank และการยกระดับงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ก็ยิ่งเป็นการส่งเสริมความสามารถและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับไทยพาณิชย์

 

SCB Live Sustainably

 

 ธรรมาภิบาลและความโปร่งใส

 

ธนาคารให้ความสำคัญกับการมีโครงสร้างคณะกรรมการที่เป็นอิสระโปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการกำกับดูแลการบริหารงานของธนาคาร และเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices) อื่นๆ

 

นอกจากนี้ธนาคารยังได้นำเครื่องมือการประเมินทักษะกรรมการ (Board Skill Matrix) มาใช้ในการประเมินคุณสมบัติของคณะกรรมการธนาคารด้วย ซึ่งธนาคารดำเนินการทบทวนให้มีความเหมาะสมและเป็นปัจจุบันอย่างสม่ำเสมอ 

 

ดังนั้นแนวคิด “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” จึงสะท้อนถึงความตั้งใจจริงของธนาคารที่ยึดมั่นมาอย่างยาวนาน และจะยังคงเป็นเข็มทิศนำทางในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับสังคมไทยต่อไปอย่างแน่นอน

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising