วันนี้ (4 ตุลาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะลงพื้นที่จุดผ่านแดนช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนการค้าที่เชื่อมต่อกับจุดจุ๊บโกกี ประเทศกัมพูชา โดยตอนนี้ยังถูกปิดอยู่ โดยทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรี และคณะได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ ก่อนจะเดินดูบริเวณรอบๆ พื้นที่ และได้มอบเสบียงอาหารให้กับทหารที่ปฏิบัติงาน
จากนั้นเดินทางต่อมาที่ฐานปฏิบัติการแมงป่อง กองร้อยทหารพรานที่ 2604 มอบเสบียงอาหารบำรุงขวัญกำลังใจให้กับกำลังป้องกันชายแดนของกองกำลังสุรนารี ก่อนที่จะเข้าไปดูภายในฐานทัพ นานกว่า 20 นาที ก่อนจะออกมาให้สัมภาษณ์ โดยชี้ไปที่ได้รั้วลวดหนามหีบเพลง พร้อมกล่าวว่า มีรั้วลวดหนามหีบเพลง ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นรั้วอย่างหนึ่ง ใครบอกว่า ยังไม่ทำรั้ว ไม่ใช่รั้วนี่ทำตั้งหลายชั้น และตอกไปตามแนวเขต เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามา คิดดูว่าหากฝ่ายตรงข้ามจะเข้ามา ต้องนั่งตัดนั่งฝ่ารั้ว ซึ่งเรามีทหารประจำจุด ที่คนไปบอกว่าเป็นรั้วลวดหนามแล้วจะไปตัดเข้ามาได้ ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินไปชี้จุดที่เป็นรั้ววางรั้วลวดหนามซ้อนกันหลายชั้นหลายวง และวางยาวทอดไปตลอดแนวชายแดน และวันนี้ให้กำลังใจทหารตามแนวชายแดน โดยยอมรับว่า สงสารทหาร เพราะเขาต้องอยู่กันแบบนี้ ช่วงหน้าฝนก็ต้องอยู่ต้องเฝ้าตามแนวชายแดน สิ่งที่จะต้องให้ความสำคัญกับทหารในช่วงนี้ หากเขาขอการสนับสนุนอะไรจากรัฐบาล เราก็ต้องดำเนินการเพราะนี่มาเห็นกับตาตัวเอง เห็นภาพว่ามีความจำเป็นอะไรบ้าง วันดีคืนดีก็มีจรวดเข้ามา ระเบิดยิงเข้ามาจากฝั่งโน้น ซึ่งนี่ถึงเรียกว่ารั้ว เราไม่ได้สร้างกำแพง และจะต้องขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศ เพราะหากสภาพภูมิประเทศแบบนี้มาสร้างกำแพงก็งบประมาณเท่าไหร่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่าจะเป็นรั้วสลับกำแพงไปเรื่อยๆ ใช่หรือไม่ อนุทิน กล่าวว่า เป็นไปตามภูมิประเทศ และตามความสำคัญ ส่วนความคืบหน้าตอนนี้ทหารก็จะไปดูความสำคัญ และความจำเป็นตรงนี้เราจะไปกำหนดเองไม่ได้
อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ในครั้งนี้ มีประชาชนที่อยู่ในพื้นที่มารอพบนายกรัฐมนตรีด้วย โดยนายกรัฐมนตรียืนยันไม่เปิดด่านแน่นอน และขอให้รอรับเงินเยียวยาในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ จากนั้นได้นั่งยองถ่ายภาพร่วมกับประชาชน อย่างเป็นกันเอง
ก่อนเดินทางกลับ นายกรัฐมนตรี ได้ให้กำลังใจทหารอีกครั้ง โดยขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยเด้อ รัฐบาลพร้อมดูแลและให้การสนับสนุน และก่อนขึ้นรถ นายกรัฐมนตรี ได้ร้องเพลงปลุกใจทหารด้วย “เรารบจนใจขาด เพื่อชาติของไทย”