พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือพรรค LDP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของญี่ปุ่นในขณะนี้ เตรียมลงคะแนนเสียงเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันพรุ่งนี้ (4 ตุลาคม) ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นอาจมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ หรือมีผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในยุคสมัยใหม่
มีผู้สมัครชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค LDP ทั้งหมด 5 คน ซึ่งกำลังแข่งขันกันในช่วงโค้งสุดท้าย เพื่อเข้ามารับไม้ต่อจาก ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่ง หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งหลายครั้ง
โดยผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้มีแนวโน้มสูงมากที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนต่อไป เนื่องจากพรรค LDP เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภา แม้ว่าพรรคได้สูญเสียเสียงข้างมากในทั้งสองสภา ภายใต้การนำของอิชิบะแล้วก็ตาม
ส่องผู้สมัครคนสำคัญ
หนึ่งในผู้สมัครตัวเต็งคือ ซานาเอะ ทาคาอิจิ วัย 64 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษนิยม เธอเป็นพันธมิตรของ ชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ โดยเธอให้คำมั่นว่าจะ กระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการใช้จ่ายของรัฐบาลอย่างแข็งกร้าว ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนตื่นตระหนก เนื่องจากญี่ปุ่นมีภาระหนี้สินมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ทาคาอิจิ สัญญาว่าจะ เพิ่มขนาดเศรษฐกิจเป็นสองเท่าภายในหนึ่งทศวรรษ ด้วยการลงทุนของรัฐจำนวนมหาศาลในเทคโนโลยีใหม่ โครงสร้างพื้นฐาน การผลิตอาหาร และด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจอื่นๆ
โดยเธอผ่านเข้าสู่การเลือกตั้งหัวหน้าพรรครอบ Runoff เมื่อปีที่แล้ว ก่อนจะแพ้ให้กับอิชิบะด้วยคะแนนเสียง 52.57% ต่อ 47.43% ถ้าหากครั้งนี้เธอได้รับเลือก ทาคาอิจิจะเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองญี่ปุ่น
อีกหนึ่งคู่แข่งคนสำคัญคือ ชินจิโร โคอิซึมิ วัย 44 ปี ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรอยู่ในขณะนี้ และเป็นลูกชายของ จุนอิจิโร โคอิซึมิ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น (2001-2006) โดย โคอิซึมิ รวมถึงผู้สมัครคนอื่นๆ (ยกเว้น ทาคาอิจิ) ได้กล่าวว่า พวกเขาจะ ลดภาษีเพื่อช่วยครัวเรือนรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่จะยึดถือแนวทางจำกัดทางเศรษฐกิจ (Economic Restraint) ของอิชิบะอย่างใกล้ชิด
โดยโคอิซึมิถูกมองว่า เป็นบุคคลที่สามารถสร้างฉันทามติร่วมกับพรรคอื่นๆ ได้ หากเขาได้รับเลือกตั้ง โคอิซึมิจะมีอายุมากกว่า ฮิโรบูมิ อิโตะ เพียงไม่กี่เดือน เมื่อเทียบกับอายุของอิโตะขณะที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนแรกของญี่ปุ่นในปี 1885 และนั่นทำให้ญี่ปุ่นอาจมีนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดในยุคสมัยใหม่
ส่วนผู้สมัครอีก 3 คนได้แก่ โยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี วัย 64 ปี, ทาคายูกิ โคบายาชิ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงทางเศรษฐกิจ วัย 50 ปี และ โทชิมิตสึ โมเตกิ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ วัย 69 ปี
เกณฑ์การเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่
หากผู้สมัครคนใดได้รับเสียงข้างมาก มากกว่า 50% หรือประมาณ 297 คะแนน ในรอบแรก จะเป็นผู้ชนะและได้เป็นเก้าอี้หัวหน้าพรรค LDP ทันที แต่หากไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงถึงเกณฑ์ดังกล่าว จะมีการจัดการลงคะแนนแบบ Runoff ทันทีในรอบที่สอง
โดยผู้ที่จะเข้าสู่รอบสุดท้ายจะเป็นสองผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงสุดจากรอบแรก ผู้ชนะจะถูกตัดสินโดยสมาชิกสภานิติบัญญัติ 296 คน และตัวแทนจาก 47 สาขาประจำจังหวัดของพรรค ซึ่งแต่ละสาขาจะมีคะแนนเสียงเท่ากันจำนวน 1 คะแนน รวมเป็น 343 คะแนน ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งในรอบที่สองจะได้เป็นหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่
ใครก็ตามที่ชนะการเลือกตั้งผู้นำพรรค LDP จะต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก หลังพรรคที่กำลังประสบวิกฤต ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ความไม่พอใจต่อพรรค LDP กำลังผลักดันให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนหนุ่มสาวที่รู้สึกผิดหวัง หันไปหาพรรคฝ่ายค้าน เช่น พรรคขวาจัดที่ต่อต้านผู้อพยพ
พรรค LDP ถูกมองว่าห่างเหินจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากขึ้นเรื่อย ๆ และผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองได้ให้ความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการเลือกตั้งผู้นำประเทศอีกครั้งในไม่ช้า
แฟ้มภาพ: Tomohiro Ohsumi / Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/china/japans-next-leader-may-be-its-first-woman-or-youngest-modern-era-2025-10-02/
- https://www.japantimes.co.jp/news/2025/09/20/japan/politics/takaichi-female-pm-possibility/
- https://www.abc.net.au/news/2025-10-03/japan-next-prime-minister-candidates-are-starkly-different/105843004