วันนี้ (2 ตุลาคม) รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความตอบโต้ภายหลัง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่าจะฟ้องร้อง เนื่องจากรังสิมันต์ได้อภิปรายพาดพิงว่า ปรากฏภาพ ร.อ. ธรรมนัสร่วมกับ เบน สมิธ นักธุรกิจชาวแอฟริกาใต้ ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับขบวนการสแกมเมอร์และฟอกเงิน
รังสิมันต์ระบุว่า ท่านธรรมนัสอย่าเพิ่งร้อนตัว เพราะตนเองยังไม่ได้บอกตรงไหนว่าท่านทำสแกมเมอร์ หรือทำธุรกิจฟอกเงิน แค่บอกว่าคนของสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา ชื่อ เบน สมิธ รู้จักท่านเป็นอย่างดี คนนี้ๆ เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินสแกมมหาศาล ท่านจะไปฟ้องตนที่พะเยา-นราธิวาสเพื่อปิดปากผมทำไม
“สรุปท่านรองนายกรัฐมนตรีอยากให้ผมหุบปาก เลิกแฉการฮุบประเทศไทยจากสแกมเมอร์ที่มีฐานที่กัมพูชาใช่มั้ย ท่านธรรมนัส ท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรี ควรปกป้องคนออกมารักษาผลประโยชน์ของชาติ ไม่ใช่พยายามปิดปากเขา ผมแนะนำให้ท่านธรรมนัส เอาข้อมูลเกี่ยวกับเบน สมิธ ไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่า จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วย” รังสิมันต์ระบุ
รังสิมันต์ทิ้งท้ายว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน อย่าตกเป็นเครื่องมือของการใช้กลไกยุติธรรมเพื่อปิดปากแบบนี้ คิดถึงผลประโยชน์ของชาติเยอะๆ คิดถึงคนที่สูญเงินจากสแกมเมอร์เยอะๆ หลายคนตัดสินใจฆ่าตัวตาย ครอบครัวพังทลาย ส่วนตนเองก็จะทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนอย่างดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ (2 ตุลาคม) รังสิมันต์ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาปัญหาการฟอกเงินของกัมพูชา ที่เชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย จากการชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าปัจจุบัน เบนจามิน สมิธ ได้หลบหนีออกจากประเทศไทยไปแล้ว โดยเดินทางด้วยไพรเวทเจ็ต T7-TCB เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา โดยไม่ทราบว่าประเทศปลายทางเป็นประเทศอะไร
รังสิมันต์กล่าวด้วยว่า การประชุมครั้งต่อไปในสัปดาห์หน้า กรรมาธิการฯ จะเชิญบุคคลหลายคนมาให้ข้อมูล ทั้ง ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่เป็นผู้รู้จัก และมีภาพถ่ายทำบุญร่วมกันกับเบนจามิน จึงเชื่อว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน