ต้องบอกว่าที่ผ่านมาเราอยู่กับตระกูล iPhone Pro มาตลอด ตั้งแต่รุ่น 14 Pro, 15 Pro จนล่าสุด 16 Pro ตลอดระยะเวลาที่ใช้งาน เราเชื่อว่า Pro คือสมดุลที่ดีที่สุดระหว่างความพรีเมียมและความคล่องตัว ด้วยจอที่ไม่ใหญ่เกินไป พกพาง่าย ใส่กระเป๋ากางเกงก็สะดวก ทั้งยังมีประสิทธิภาพที่สูงเพียงพอกับการใช้งานของเรา
แต่ปีนี้ iPhone 17 Pro Max ทำให้เราต้องกลับมาทบทวนดูอีกครั้ง เมื่อ Apple ได้เปิดตัวไอโฟน 17 ที่มีดีไซน์ใหม่ มาพร้อมชิป A19 Pro และระบบกล้อง Fusion 48MP ทั้งสามเลนส์ บวกกับกล้องหน้า Center Stage รุ่นใหม่ที่ 18MP และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่ไอโฟนเคยมีมา แถมตอนนี้ไลฟ์สไตล์เราก็ต้องใช้มือถือทำงาน ถ่ายภาพนิ่ง และวิดีโอมากขึ้น ต้องการคุณภาพงานที่มากขึ้น ครั้งนี้เราเลยตัดสินใจลองเปลี่ยนจาก Pro และมาเป็น Pro Max และนี่คือ 5 สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่อเราย้ายฝั่ง
จอที่ไม่ใช่แค่ใหญ่ แต่เต็มตากว่าเคย
สิ่งแรกที่เราสัมผัสได้คือประสบการณ์จอภาพแบบ Super Retina XDR ขนาด 6.9 นิ้วของ iPhone 17 Pro Max มันไม่ใช่แค่ใหญ่ขึ้น แต่ให้ความรู้สึกเต็มตาและอิ่มมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อ Apple ได้เพิ่มความสว่างกลางแจ้งสูงสุดถึง 3,000 นิต และเพิ่มการเคลือบป้องกันแสงสะท้อน ทำให้การดูหนัง เล่นเกม หรืออ่านบทความยาวๆ กลางแจ้งสะดวกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
นอกจากนั้น Ceramic Shield 2 ยังช่วยปกป้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความมั่นใจได้มากขึ้นว่าความเสี่ยงที่หน้าจอจะเป็นรอยขีดข่วน หรือแตกร้าวน่าจะลดน้อยลง แต่ความต่างที่ชัดเจนแน่ๆ คือขนาดของหน้าจอที่ใหญ่จุใจ
แบตเตอรี่ที่ยาวนาน
หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เราชอบ คือแบตเตอรี่ที่อึดกว่าทุกรุ่นที่ผ่านมา เพราะ iPhone 17 Pro Max เพิ่มพื้นที่ให้กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อทำงานคู่กับชิป A19 Pro ก็สามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง iOS 26 ที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ก็ส่งผลให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานที่สุดในประวัติศาสตร์ไอโฟนเลยก็ว่าได้ (แต่รุ่นหน้าค่อยว่ากันใหม่)
จากเดิมเวลาใช้งานหนักๆ ผ่านไปไม่ทันหมดวันก็ต้องหาที่ชาร์จแล้ว แต่ตอนนี้เราใช้ iPhone 17 Pro Max ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ เปิดยูทูบ หรือประชุมผ่านวิดีโอคอล ฯลฯ สัมผัสได้ว่าแบตฯ ไม่ค่อยลดลงเร็วมากนัก นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จที่เร็ว 50% ได้ภายใน 20 นาทีด้วยอะแดปเตอร์ 40 วัตต์ ก็ทำให้เรามั่นใจว่าถ้าเกิดแบตฯ หมดกลางคัน อย่างน้อยหาที่เสียบชาร์จแป๊บเดียวก็อยู่ได้ยาวแล้ว
กล้องที่เทพขึ้นแน่นอน
ต้องยอมรับว่ากล้องตระกูล 16 Pro ว่าดีแล้ว พอมาใช้ iPhone 17 Pro Max เราสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
ด้วยกล้อง Fusion 48MP ทั้งสามเลนส์ให้คุณภาพที่สมดุลระหว่างความคมชัดและสีสัน เลนส์เทเลโฟโต้ 48MP แบบ Tetraprism เจเนอเรชั่นใหม่ การซูมออปติคัลได้สูงสุด 8 เท่าที่ 200 มม. ถือว่ายาวที่สุดที่ไอโฟนเคยมีมา และยังเพิ่มทางเลือกซูมที่ 100 มม. สำหรับภาพบุคคลแบบคลาสสิกอีก
ส่วนด้านการถ่ายวิดีโอ Apple ได้เพิ่ม ProRes RAW, Apple Log 2 และ Genlock ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกับทีมโปรดักชันระดับมืออาชีพได้ราบรื่นขึ้น เราลองถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า Center Stage 18MP เวลาอยากทำ Vlog, เซลฟี่ หรือต้องประชุมออนไลน์ กล้องก็สามารถจัดองค์ประกอบภาพให้เราอยู่ตรงกลางเฟรมได้โดยอัตโนมัติ เป็นประโยชน์มากเวลาวิดีโอคอล เพราะช่วยให้เราดูมืออาชีพยิ่งขึ้น
ประสิทธิภาพที่ลื่นไหล จัดการเรื่องความร้อน
ด้วยความเร็วของชิปใหม่ A19 Pro สัมผัสได้ว่าเร็วขึ้นจริง ส่วน CPU 6-core และ GPU 6-core ที่ทำงานร่วมกับ Neural Engine 16-core ก็ทำให้การเล่นเกมระดับ AAA อย่าง Arknights: Endfield เป็นไปได้อย่างลื่นไหล
เราพยายามทดสอบเรื่องเครื่องร้อนที่ Apple พยายามแก้ไขด้วย Vapor Chamber ที่ช่วยกระจายความร้อน และการใช้โลหะผสมอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 ด้วยการถ่ายวิดีโอยาวๆ เปิดดูซีรีส์ติดต่อกัน ก็ไม่ค่อยเจออาการเครื่องร้อนเท่าไรนัก แต่ยังไม่เคยทดสอบใช้งานกลางแจ้งหรือกลางแดดจัดๆ ที่รุ่นก่อนหน้าจะมีอาการฟ้องอยู่บ้าง
เคสผ้า FineWoven แบบกระเป๋าสตางค์พร้อม MagSafe
เคสผ้า TechWoven ทำมาจากผ้าที่ทอด้วยเทคนิคเฉพาะตัว
5 จากที่เคยคิดว่า ‘ใหญ่เกินไป’ กลายเป็นก็ดีนะ
สารภาพว่าก่อนหน้านี้เราเป็นคนที่ไม่เคยสนใจรุ่น Max เลย เพราะกลัวว่าขนาดจะใหญ่เทอะทะเกินไป จะไม่สะดวกกับการพกพา แต่พอได้ลองใช้ iPhone 17 Pro Max สักพัก ความคิดต่างๆ ก็เริ่มอ่อนลง
เพราะข้อดีของจอใหญ่ที่ใหญ่คือทำให้การอ่าน ดูคลิป หรือการทำงานเอกสารบนมือถือ (การใช้งานหลักตอนนี้เลย) สะดวกขึ้นมาก ปวดตาน้อยลง ถ่ายภาพเห็นรายละเอียดชัดเจน แต่ก็ต้องแลกมากับน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับ 16 Pro และขนาดที่จับไม่ถนัดมือเท่า แต่ก็ยังใช้งานมือเดียวได้ ถ้าอยากให้มั่นคงขึ้นก็ต้องใช้อีกข้างช่วยประคอง แต่โดยรวมพอปรับตัวได้ก็ไม่เป็นปัญหา
บทสรุป: การย้ายมา Max คุ้มค่าหรือไม่
ถ้าเรามอง iPhone 16 Pro ว่าเป็นเครื่องมือที่ครบถ้วนอยู่แล้ว iPhone 17 Pro Max ก็เหมือนการยกระดับทุกประสบการณ์ ตั้งแต่จอภาพที่เต็มตาและทนทานยิ่งขึ้น แบตเตอรี่ที่อึดกว่า กล้องที่เทียบได้กับอุปกรณ์มืออาชีพ ประสิทธิภาพที่จัดการความร้อนได้ดี ไปจนถึงการออกแบบใหม่ที่ผสานวัสดุอะลูมิเนียมกับ Ceramic Shield 2 อย่างลงตัว
สำหรับใครที่ลังเลระหว่าง Pro กับ Pro Max เราอยากบอกว่า ถ้าคุณใช้ไอโฟนเป็นศูนย์กลางการทำงาน การสร้างคอนเทนต์ และการเสพสื่อทุกชนิด การย้ายมา Max คือการลงทุนที่มอบประสบการณ์ที่ต่างออกไปอย่างชัดเจน แต่ถ้าคุณยังให้ความสำคัญกับความคล่องตัวและการพกพา Pro ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเช่นเคย
iPhone 17 Pro Max มี 3 สีได้แก่ น้ำเงินเข้ม สีส้มคอสมิก และสีเงิน จำหน่ายในรุ่นความจุ 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB ราคาเริ่มต้นที่ 48,900 บาท