วันนี้ (16 กันยายน) กลุ่ม สว. ในบัญชีรายชื่อสำรอง นำโดย ธนวัฒน์ ศรีสุข, อุทัย อัตถาพร และคณะ เข้ายื่นหนังสือถึง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน โดยมี วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นตัวแทนรับเรื่อง โดยขอให้ติดตามตรวจสอบ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นผู้กล่าวหาในคดีฮั้ว สว.
ธนวัฒน์ระบุถึงความกังวลและแสดงความห่วงใยต่อคดี ฮั้ว สว. เพราะกังวลเรื่องการแทรกแซงคดี และได้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ เพื่อไปสอบปากคำพยานจำนวน 1,200 ปาก แต่ถูกสกัดด้วยมือที่มองไม่เห็น และปัจจุบันในวันที่ 16 กันยายน พบว่าเจ้าหน้าที่เดินทางกลับมาหมดแล้ว
ตัวแทนกลุ่ม สว. สำรองยังระบุถึงสถานการณ์ที่น่าห่วงใย ตามที่มีโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปรากฏชื่อ พล.ต.ท. รุทธพล เนาวรัตน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เติบโตในจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมขอให้จับตามองว่าอาจจะมีการโยกย้าย พล.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดี DSI หรือไม่
กลุ่ม สว. สำรอง ได้เรียกร้องพรรคประชาชน 2 ข้อ ได้แก่
- ขอให้ติดตามตรวจสอบอนุทิน ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจ และเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง อาจใช้อำนาจรัฐก้าวก่ายแทรกแซงคดีเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้อง
- ขอให้ติดตามตรวจสอบการบริหารงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมในฐานะผู้กำกับดูแล DSI ไม่ให้มีการแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ DSI
ด้านวิโรจน์กล่าวว่า พรรคประชาชนได้เริ่มติดตาม ว่ามีการแทรกแซงหรือมีความพยายามเข้าไปขัดขวางการพิจารณาคดีหรือกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้ง สว. ที่ผ่านมา คือต้องติดตามการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่เป็นผู้บังคับบัญชา DSI ที่อยู่ภายใต้กำกับ เพราะได้ย้ำในหลายเวทีว่า พรรคติดตามเรื่องนี้ใกล้ชิด
“หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมอยู่ในเครือข่ายใกล้ชิดกับปราสาทสายฟ้า หรือพรรคภูมิใจไทย ซึ่งอยู่ในกระบวนการถูกกล่าวหาด้วย หากบอกไม่แทรกแซง คงไม่มีคนในสังคมเชื่อ ที่ได้ย้ำและพูดติดตลกร้ายว่า ไม่ใช่แค่อมพระมาพูด แต่อมพระประธานมาพูด ก็คงไม่มีใครเชื่อ จุดเริ่มต้นที่ทำให้สังคมสบายใจที่สุดคือ การแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่มีความเหมาะสม เป็นกลาง และยืนยันว่าจะไม่แทรกแซง หรือเข้าไปเกี่ยวดองหนองยุ่งในพยานหลักฐาน ที่อาจจะทำให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว“ วิโรจน์กล่าว
วิโรจน์กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่ได้รับการร้องเรียนว่า มีการกดดันไปที่ข้าราชการ แม้กระทั่งอธิบดี DSI นั้น จะต้องมีการติดตามข้อเท็จจริงต่อไปว่า มีการกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อมหรือไม่ ทั้งนี้ พรรคประชาชนยินดีทำงานกับกลุ่ม สว. สำรอง กับเครือข่ายต่างๆ ที่ให้ความสนใจ
”หากหลักฐานมีความชัดเจน จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าหลักฐานแจ่มแจ้งชัดเจนโยงไปถึงการฮั้ว โยงไปถึงพรรคภูมิใจไทยจริง ตามข้อสันนิษฐาน เราไม่อาจไว้วางใจพรรคภูมิใจไทยให้เป็นรัฐบาลต่อไปได้” วิโรจน์กล่าว