ทรัมป์ไม่พอใจอิสราเอลโจมตีกาตาร์ พุ่งเป้าสังหารผู้นำฮามาส ผู้นำโลกประณามละเมิดอธิปไตย-กฎหมายระหว่างประเทศ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่ง ต่อกรณีที่อิสราเอลทำการโจมตีอาคารพักอาศัยในกรุงโดฮา ของกาตาร์ โดยพุ่งเป้าสังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาส ท่ามกลางการประณามจากกาตาร์และบรรดาผู้นำโลกที่มองว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

“ผมไม่ค่อยพอใจกับสถานการณ์โดยรวมเท่าไหร่ มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ดีเลย แต่ผมจะพูดแบบนี้ เราต้องการตัวประกันกลับคืนมา แต่เราไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว และเผยว่าจะออกแถลงการณ์ฉบับเต็มในวันนี้

การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของทรัมป์ ในการเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสตอบรับเงื่อนไขข้อตกลงสันติภาพ ขณะที่ทรัมป์ เปิดเผยว่าได้รับแจ้งเกี่ยวกับแผนโจมตีของอิสราเอลไม่นาน ก่อนที่การโจมตีจะเริ่มขึ้น

เหตุโจมตีดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงบ่ายวานนี้ (9 กันยายน) ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีเสียงระเบิดและควันลอยขึ้นเหนือบริเวณกลุ่มอาคารพักอาศัยใกล้กับเขต West Bay Lagoon ทางตอนเหนือของใจกลางกรุงโดฮา โดยกองทัพอิสราเอล อ้างว่า ได้ดำเนินการโจมตีอย่างแม่นยำใส่เป้าหมายผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาส ขณะที่สื่ออิสราเอลรายงานว่า มีเครื่องบินรบอิสราเอล 15 ลำเข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีดังกล่าว

กลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า อิสราเอลพุ่งเป้าสังหารคณะผู้แทนเจรจาของกลุ่ม รวมถึง คาลิล อัลไฮยา หัวหน้าคณะผู้แทนเจรจา แต่พบว่าไม่มีผู้แทนเจรจาคนใดเสียชีวิต โดยมีผู้เสียชีวิต 6 คน รวมถึงบุตรชายของอัลไฮยา และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของกาตาร์

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของทำเนียบขาว ระบุว่าทรัมป์ได้สั่งการให้สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษประจำตะวันออกกลาง แจ้งเตือนไปยังกาตาร์ ก่อนที่การโจมตีจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม กาตาร์ได้ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยชีค โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน อัล ธานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ กล่าวว่า สหรัฐฯ โทรศัพท์แจ้ง หลังจากที่การโจมตีเริ่มต้นขึ้นแล้วราว 10 นาที และประณามว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็น “การก่อการร้ายของอิสราเอล” และเป็นการคุกคามการเจรจาสันติภาพที่กาตาร์เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย

อิสราเอลอ้างการโจมตีชอบธรรม

เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้ออกแถลงการณ์ไม่นานหลังการโจมตี โดยอ้างว่า การโจมตีครั้งนี้เป็น “ปฏิบัติการอิสระของอิสราเอลทั้งหมด”

“อิสราเอลเป็นผู้ริเริ่ม อิสราเอลเป็นผู้ดำเนินการ และอิสราเอลรับผิดชอบอย่างเต็มที่” แถลงการณ์ระบุ

โดยการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นไม่นาน หลังจากกองพลน้อยกัสซัม (Qassam Brigades) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุกราดยิงป้ายรถเมล์ชานนครเยรูซาเล็ม เมื่อวันจันทร์ (8 กันยายน) ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน

ขณะที่เนทันยาฮู อ้างว่าการโจมตีครั้งนี้ “มีความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง” โดยเขาได้สั่งการภายหลังเกิดเหตุการณ์กราดยิงในเยรูซาเล็ม และมีรายงานทหารอิสราเอล 4 นายเสียชีวิตในฉนวนกาซา

“ยุคสมัยที่ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายจะได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ว่าในรูปแบบใดได้สิ้นสุดลงแล้ว ผมจะไม่อนุญาตให้มีเอกสิทธิ์คุ้มครองเช่นนั้นเกิดขึ้น” เนทันยาฮูกล่าวในการแถลงทางโทรทัศน์

ผู้นำโลกประณามอิสราเอล

หลายประเทศทั่วโลกแสดงท่าทีประณามการโจมตีของอิสราเอล โดยสหภาพยุโรปเรียกเหตุการณ์นี้ว่า เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

ขณะที่อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ประณามการโจมตีครั้งนี้ และชี้ว่ากาตาร์มีบทบาทเชิงบวกอย่างมากในการเจรจาหยุดยิงและการปล่อยตัวตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้ในฉนวนกาซา

ด้านสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอทรงแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อผลที่จะตามมาจากการโจมตีของอิสราเอล

ขณะที่ประเทศในตะวันออกกลางต่างก็ประณามการกระทำของอิสราเอลอย่างรุนแรง โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งได้ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลภายใต้ข้อตกลงอับราฮัมในปี 2020 เรียกเหตุการณ์นี้ว่า “ไร้ความละอายและขี้ขลาด”

กระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียประณามการรุกรานของอิสราเอลและการละเมิดอธิปไตยของกาตาร์ และเตือนถึง “ผลกระทบร้ายแรงจากการที่อิสราเอลยังคงละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง”

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศตุรกี ประณามการโจมตีกาตาร์ของอิสราเอล โดยระบุว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่า “อิสราเอลไม่สนใจข้อตกลงยุติสงครามในฉนวนกาซา”

ภาพ : REUTERS/Ibraheem Abu Mustafa

อ้างอิง :