วันนี้ (8 กันยายน) คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยผลการยื่นคำร้องศาลอุทธรณ์ เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ ลูกเกด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ปทุมธานี พรรคประชาชน (ปชน.) หลังศาลอาญาพิพากษาจำคุก ในความผิดดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จำคุก 2 ปี 8 เดือน จากเดิม 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา
คุ้มเกล้า ระบุว่า ศาลอุทธรณ์ พิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ ชลธิชา (จำเลย) ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 3 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ ชลธิชา จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นคำร้องขอสู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป
สำหรับคดีนี้อัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับ#ราษฎรสาส์น จดหมายข้อความถึงสถาบันฯ ซึ่งมีเนื้อหาแสดงความคิดเห็นต่อสถาบัน
จำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดี อ้างว่า เป็นการเรียกร้องตามสิทธิเสรีภาพ ของรัฐธรรมนูญ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างรับฟังได้ว่า พยานโจทก์หลายปาก ซึ่งเป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีและพนักงานสอบสวน บก.ปอท.หลายปากเบิกความ สอดคล้องกันว่า จำเลยเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก ที่โพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งมีเนื้อหาให้ร้ายสถาบันหลายข้อความ อันเป็นภัยต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร เพิ่มความขัดแย้งในสังคมก่อให้เกิดความเห็นต่าง เป็นการปลุกระดมสร้างทัศนคติในเชิงลบแก่ประชาชน เป็นการใส่ความให้ร้ายสถาบัน เกินขอบเขตการแสดงความคิดเห็น กระทบต่อบุคคลอื่น
ส่วนที่จำเลย อ้างว่า เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ตามรัฐธรรมนูญในการเสนอแนะด้วยความปรารถนาดี
อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญได้บัญญัติ ให้การใช้เสรีภาพย่อมอยู่ภายใต้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้อื่นด้วยเช่นกัน ข้อต่อสู้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ เห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง เป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษบทหนักสุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่รวมโทษจำคุก อีก2ปี ชลธิชา นั้นสืบเนื่องจากการปราศรัยในกลุ่มคาร์ม็อบ โจมตีการทำงานรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการชุมนุมกลุ่มคาร์ม็อบบริเวณหน้าห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เมื่อปี 2564