วันนี้ (30 สิงหาคม) ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลว่า มั่นใจว่าเสียงมีจำนวนเพียงพอ ซึ่งตามหลักการที่พรรคร่วมรัฐบาลได้แถลงไปเมื่อวานนี้ยังเป็นพรรคร่วมเดิมอยู่
ประเสริฐกล่าวว่า ส่วนที่ไม่มีพรรคกล้าธรรมร่วมแถลงด้วยนั้น พรรคแจ้งว่าติดประชุมพรรค มีการยืนยันมาอย่างนั้น ส่วนกรณีพรรคภูมิใจไทย ประกาศว่าสามารถรวมเสียง สส. ได้ 280 เสียงแล้วนั้น อย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะพรรคประชาชนยังไม่ได้ตอบรับอย่างเป็นทางการ แล้วมาทึกทักเอาเอง เช่นเดียวกับพรรคกล้าธรรมก็ยังไม่ได้ตอบรับ ตัวเลขนี้จึงยังไม่สามารถสรุปได้
ส่วนที่มีบางส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลไปร่วมแถลงข่าวตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทย ประเสริฐกล่าวว่า ตามภาพที่ปรากฏแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถตั้งรัฐบาลได้ และไม่ได้หมายความว่าจำนวนเสียงมีเพียงพอ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็จะมีการพูดคุยกับพรรคประชาชนต่อไป
ส่วนข้อเสนอของพรรคประชาชนในเรื่องการทำประชามติ ต้องคุยกันในรายละเอียด แต่ก็ไม่ได้ติดขัดอะไรขึ้นอยู่กับทีมเจรจาของ 2 พรรคการเมืองที่จะคุยกัน และในเรื่องนี้ ดีเอ็นเอของพรรคประชาชนกับพรรคเพื่อไทยไม่ห่างกัน มีนโยบายหลายอย่างมีความสอดคล้อง และคล้ายคลึงกันอยู่
เมื่อถามต่อว่า การแยกกันของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนก่อนหน้านี้ก็ไม่ดีสักเท่าไหร่ ประเสริฐกล่าวว่า ตอนนั้นมีเหตุจำเป็น เนื่องจากเป็นการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขณะนั้นพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับ 2 จึงต้องมีการรวบรวมเสียงเพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้ เป็นตามระบอบประชาธิปไตยและตามรัฐธรรมนูญ
ส่วนที่ สส.บางคน ของพรรคเพื่อไทยไปปรากฏตัวร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ประเสริฐกล่าวว่า อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ามี 10 กว่าเสียง ของ สส.พรรคเพื่อไทยตามที่สมาชิกท่านหนึ่งของพรรคออกมาระบุ ยืนยันว่ายังมั่นใจในตัว สส. ของพรรค
ส่วนจะทำอย่างไรไม่ให้ผู้สนับสนุนพรรคเกิดความระส่ำ หลังมีภาพ สส. ของพรรคเพื่อไทยไปปรากฎตัวกับพรรคภูมิใจไทย ประเสริฐกล่าวว่า ถ้ามองตามภาพขณะนี้ จะเห็นว่านอกจาก ศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส. กาญจนบุรี ยังไม่มี สส. คนอื่นของพรรคเพื่อไทยไปปรากฏตัว หรือประกาศว่าไปร่วมกับศักดิ์ดา ศักดิ์ดาคิดไปเอง และอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัวและคิดว่าเขาจะไปอยู่ด้วย ตนคิดว่าการตัดสินใจของนักการเมืองไม่ง่ายอย่างที่ศักดิ์ดาคิด และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะรวมเสียงตั้งรัฐบาลได้
ส่วนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนั้นในบัญชีพรรคเพื่อไทย ขณะนี้เหลือ ชัยเกษม นิติสิริ เพียงคนเดียว และที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อวานนี้ก็ได้มอบหมายให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งน่าจะเป็นไปตามนั้น
ส่วนจะเป็นบุคคลอื่นในบัญชีของพรรคร่วมรัฐบาลได้หรือไม่ ประเสริฐกล่าวว่า ก็ต้องเป็นการพูดคุยกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลที่สามารถรวบรวมเสียงได้ ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยรวมเสียงไม่ได้ มีสิทธิ์ที่จะเห็นรัฐบาลรักษาการประกาศยุบสภาหรือไม่ ต้องดูกฎหมายว่ารักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีมีอำนาจยุบสภาหรือไม่ ต้องให้เกิดความชัดเจนถึงจะกล้าตัดสินใจเรื่องนี้
