วันนี้ (22 สิงหาคม) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 1860/2567 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ ฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2558
📍เช้านี้ที่ศาลอาญา
เวลา 09.30 น. ทักษิณ ชินวัตร พร้อมด้วย พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาว เดินทางมาถึงศาล โดยโบกมือให้สื่อมวลชนที่มารอรายงานข่าว และสวมกอดบุตรสาว
บรรยากาศที่ศาลคึกคัก มีบุคคลสำคัญทางการเมืองเดินทางมาให้กำลังใจหลายราย เช่น
- สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี
- ศ.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
- เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
หลังเข้าฟังคำพิพากษาประมาณ 1 ชั่วโมง ทักษิณออกจากศาล พร้อมกล่าวสั้นๆ ต่อสื่อมวลชนว่า “ศาลยกฟ้อง”
📍ศาลชี้พยานหลักฐานไม่พอ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้ว ระบุว่า แม้โจทก์นำพยานมาเบิกความว่าคลิปวิดีโอเป็นของจำเลยจริง แม้ไม่มีคลิปฉบับเต็ม แต่เมื่อจำเลยรับว่าบุคคลและเสียงในคลิปเป็นตนเอง จึงถือว่ามีน้ำหนักพอรับฟังได้ว่าเป็นการให้สัมภาษณ์จริง ไม่ใช่การตัดต่อ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถ้อยคำตามคลิป ศาลเห็นว่า ข้อความไม่ได้ใช้คำหรือราชาศัพท์ที่ทำให้ระบุได้ว่าเป็นการพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์โดยตรง แต่ใช้สรรพนาม ‘เขา’ และกล่าวถึง ‘องคมนตรี’ ‘ทหาร’ ‘Palace Circle’ และ ‘คนในวัง’
📍พยานฝ่ายโจทก์ขาดความน่าเชื่อถือ
ศาลยังเห็นว่า พยานโจทก์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาเพียงปากเดียว และพยานบุคคลภายนอกที่เคยเข้าร่วมชุมนุมขับไล่ทักษิณ มีอคติทางการเมือง ต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าวิญญูชนทั่วไปจะเข้าใจถ้อยคำในลักษณะที่พยานตีความ
ส่วนพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยอมรับตรงกันว่า
- คลิปดังกล่าวไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นต้นฉบับ
- ไม่สามารถหาต้นตอผู้เผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์
ขณะที่การพิจารณาเพจเฟซบุ๊กและยูทูบที่เผยแพร่คลิป พบว่าผู้ที่ได้ฟังคลิปตั้งแต่แรกต่างเข้าใจว่า ทักษิณให้สัมภาษณ์ โจมตีการยึดอำนาจและรัฐประหาร โดยพาดพิงถึงสุเทพ เทือกสุบรรณ ทหาร และองคมนตรี ไม่ได้เข้าใจว่าเป็นการพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์
📍คำตัดสินยกฟ้องทุกข้อหา
เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอตามภาระการพิสูจน์ ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์
สำหรับข้อหาร่วมกันแสดงความอาฆาตมาดร้าย โจทก์ก็ไม่ได้มีพยานหลักฐานใดๆ มาสืบในส่วนนี้เลย ขณะที่ข้อหานำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งกระทบความมั่นคง ก็ไม่อาจรับฟังได้เช่นกัน เพราะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าข้อความดังกล่าวพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์
ศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้องทักษิณ ชินวัตร ในทุกข้อหา