วันนี้ (14 สิงหาคม) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 11 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 พัฒนา สัพโส สส. สกลนคร ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กล่าวชี้แจงในมาตรา 15 ว่าด้วยงบประมาณของกระทรวงคมนาคม ตามที่สมาชิกได้อภิปราย
พัฒนาระบุว่า สำหรับสมาชิกที่ตั้งคำถามเรื่องความคุ้มค่าของท่าอากาศยาน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วความคุ้มค่าหรือไม่ อยู่ที่สนามบินเป็นคนเลือก เรื่องดุลยพินิจความเหมาะสม เชื่อว่าเกือบ 500 คนในสภา เห็นไม่ตรงกัน นี่เป็นคำตอบของตนเองในฐานะประธานอนุกรรมาธิการฯ และต่อไปหน่วยงานที่เสนอคำขอมาต้องทำให้ถี่ถ้วน
นอกจากนี้ พัฒนายังชื่นชมประเด็นของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เนื่องจากเป็นการบ้านของกรมทางหลวง ที่ต้องไปแก้ พ.ร.บ. กรมทางหลวง รวมถึงเรื่องรถเครน แต่การขอปรับลดงบประมาณที่กรมทางหลวงเสนอคำขอมา ส่วนตัวมองว่า เป็นคนละเรื่อง และยังไม่มีเหตุผลเพียงพอ
ส่วนสมาชิกที่ตั้งข้อสังเกตเรื่องความคุ้มค่าของงบประมาณของกรมเจ้าท่านั้น ขอให้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะหลังจากร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ มีผลบังคับใช้ จะมีคณะกรรมการกำหนดราคากลางที่ดำเนินการเรื่องราคาอยู่แล้ว และเรื่องความคุ้มค่าหรือไม่นั้น การพิจารณาของกรรมาธิการจะใช้หลักการว่า เข้ากับเกณฑ์ของสำนักงบประมาณหรือไม่ และราคาสูงเกินราคาท้องตลาดหรือไม่
สำหรับประเด็นซึ่งสมาชิกและสื่อมวลชนให้ความสนใจ คืองบประมาณก่อสร้างอาคารปลัดกระทรวงคมนาคม พัฒนาระบุว่า ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการฯ ยอมรับว่า ราคาแพง แต่แพงเพราะมีสาเหตุ
“เมื่อจะก่อสร้างอะไร ยกตัวอย่าง สามีภรรยาคู่หนึ่ง คงไม่สร้างบ้านห้องเดียวแน่นอน จะต้องสร้าง 3-4 ห้องเผื่อลูกหลานในอนาคต ผมเชื่อว่าเป็นแนวทางของหน่วยงานในการออกแบบ เป็นเหตุผลว่าทำไมพื้นที่ใหญ่เกินจริง ถ้าถามว่า คน 1,000 คน ท่านจะใช้แค่ไม่กี่หมื่นตารางเมตร พูดได้หรือไม่ ท่านเคยเดินทางไปกระทรวงคมนาคมจะเห็นว่า ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอยต่างๆ ก็ไม่มี ดังนั้น ความจำเป็นเชิงพื้นที่คือการออกแบบเพื่ออนาคต” พัฒนากล่าว
พัฒนาชี้แจงต่อไปว่า การออกแบบอาคารกระทรวงคมนาคมใหม่แห่งนี้มีมาตรฐาน 2 อย่าง คือ มาตรฐานอาคารเขียว และมาตรฐาน LEED มาตรฐานอาคารเขียวเพื่อความเป็นผู้นำด้านพลังงานและ สิ่งแวดล้อมซึ่งก่อตั้งโดยสถาบันในสหรัฐอเมริกา ดังนั้น การสร้างให้ได้มาตรฐาน ต้องมีราคาสูง ที่จะปรับ 10% ยังคุยกันอยู่เลยว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ และเชื่อว่า 300 กว่าล้านบาท ก็เป็นการปรับลดที่มากสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งในการลงมติเรื่องราคาก็ไม่มีพรรคการเมืองใดในกรรมาธิการให้ความเห็นแย้ง
ฝ่ายค้านแย้ง เหตุผลสร้างไว้เผื่อลูกหลานฟังไม่ขึ้น
จากนั้น สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ติดใจในคำชี้แจงของพัฒนา พร้อมทวนคำชี้แจงว่า แพงแต่มีเหตุผล และสร้างไว้เผื่อลูกหลาน จึงขอถามว่า แล้วกระทรวงอื่นไม่เป็นแบบนี้หรือ และความจริงนโยบายของรัฐบาลควรต้องลดขนาดด้วยซ้ำ ไม่ใช่สร้างตึกที่ใหญ่แล้วหาคนเพิ่ม รวมถึงการชี้แจงเรื่องมาตรฐานอาคารเขียวและ LEED ก็ฟังไม่ขึ้น
“จริงๆ ท่านก็เห็นตรงกันว่ามันแพงมาก คำแรกมาท่านก็ยอมรับว่าแพงเกินไป แพงกว่าอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ทุกคนก็ด่าว่าแพง 3 เท่ากว่า ต่อให้ปรับลด 50% ก็แพงเกินไปอยู่ดี” สุรเชษฐ์กล่าว
ขณะที่ ศุภณัฐ มีนชัยอนันต์ สส. กทม. พรรคประชาชน ถามย้ำว่า ในห้องประชุมอนุกรรมาธิการฯ ได้มีการถามหน่วยงานหรือไม่ว่า จะมีการเพิ่มจำนวนข้าราชการถึง 3 เท่า จึงต้องสร้างอาคารใหญ่กว่าเดิมถึง 3 เท่า ซึ่งตนเองจำได้ว่าในชวเลขบันทึกการประชุมอนุกรรมาธิการฯ ไม่มีการยืนยันจากหน่วยงานว่า จะมีการเพิ่มจำนวนข้าราชการขนาดนี้ แปลว่าท่านตกหล่นในสาระสำคัญที่ใช้ในการลงมติ
ทำให้พัฒนาตอบอีกว่า ประเด็นการออกแบบเผื่อในอนาคตดังกล่าว เป็นการสอบถามนอกรอบ ไม่ได้บันทึกไว้ในบันทึกการประชุม พร้อมยืนยันในมาตรา 15 ให้คงเดิมตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก
ก่อนที่ประชุมจะลงมติในมาตรา 15 งบประมาณกระทรวงคมนาคม โดยผลการลงมติปรากฏว่า เห็นด้วย 377 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 เสียง งดออกเสียง 23 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 5 เสียง ถือว่าที่ประชุมมีมติเห็นกับการแก้ไขของกรรมาธิการเสียงข้างมาก
