วันนี้ (8 สิงหาคม) ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 และรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้นำสำนวนคดี คลิปเสียง ฮุน เซน สั่งไล่ล่าผู้เห็นต่างทางการเมืองชาวกัมพูชาในไทย จำนวน 50 แผ่น มามอบให้อัยการสูงสุดพิจารณาว่าเข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ โดยมี ฐิติวดี สินธวณรงค์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับมอบแทน
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า คดีนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้นำหลักฐานมามอบให้ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบ ซึ่งเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ทำร้ายร่างกาย พรพรรณนา ชาวกัมพูชา ที่ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 โดยปัจจุบันพรพรรณนาได้ลี้ภัยไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาแล้ว
สำหรับคลิปเสียงดังกล่าวที่เผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีเนื้อหาที่เชื่อว่าเป็นสมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งการให้นำตัวผู้เห็นต่างทางการเมืองกลับไปกัมพูชาด้วยวิธีใดก็ได้ โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้กล่าวหา สมเด็จ ฮุน เซน และ เคียง ฮวด ในความผิดตามมาตรา 16 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และเชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับการสังหาร ลิม กิมยา นักการเมืองชาวกัมพูชาในย่านบางลำพูอีกด้วย
ด้านฐิติวดี สินธวณรงค์ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า หลังจากรับสำนวนแล้วจะส่งต่อให้สำนักงานการสอบสวนเพื่อพิจารณาประเด็นคดีนอกราชอาณาจักร ก่อนจะนำเสนออัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการต่อไป ส่วนอีกคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ทางตำรวจไซเบอร์ได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องไปบางส่วนแล้ว และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้