×

กรวีร์งง อุบลฯ เบิกงบช่วยเหลือเพียง 5 หมื่นกว่าบาท จากทั้งหมด 100 ล้าน จี้ถาม มท. 1 ขอให้กล้ามาชี้แจงเหมือนที่กล้ากับข้าราชการ

โดย THE STANDARD TEAM
06.08.2025
  • LOADING...

วันนี้ (6 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา กรวีร์ ปริศนานันทกุล สส. อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการ ซึ่งได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ซึ่งเป็นจังหวัดตามแนวชายแดน มาชี้แจงเรื่องการใช้งบประมาณสำรองฉุกเฉินทดรองจ่ายให้กับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา จำนวน 100 ล้านบาท

 

รวมถึงเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเข้าชี้แจงด้วย แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเข้าชี้แจงแทน นอกจากนี้ ยังมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการด้วย

 

ที่ประชุมมีการพิจารณาการอนุมัติเงิน 100 ล้านบาทเพิ่มเติม และการดูแลประชาชน สืบเนื่องจากการตั้งกระทู้ถามในสภาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงการใช้จ่ายเงิน 100 ล้านบาท ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยที่มาชี้แจงแทน ก็ตอบว่าสามารถเบิกจ่ายได้ตามปกติ โดยมีการโฟนอินถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานียืนยันว่าสามารถเบิกจ่ายเงินได้

 

อย่างไรก็ตาม การประชุมกรรมาธิการเมื่อเช้านี้ พบว่าตัวเลขการเบิกจ่าย 3 จังหวัด มีการเบิกจ่ายเงินไปแล้วจริง จังหวัดศรีสะเกษเบิกจ่ายแล้วจำนวน 46 ล้านบาท และใช้เงินขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 48 แห่ง จำนวน 22 ล้านบาท, จังหวัดสุรินทร์เบิกจ่ายแล้วจำนวน 55 ล้านบาท และใช้เงินของ อปท. 173 แห่ง จำนวน 53 ล้านบาท และจังหวัดอุบลราชธานี รองผู้ว่าราชการจังหวัดให้ข้อมูลว่าเบิกจ่ายไปแล้วจริง เพียง 55,000 บาท

 

“กลายเป็นข้อสงสัยว่า ที่ผ่านมาประชาชนในจังหวัดอุบลราชธานีที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก อยู่กันได้อย่างไร ทั้งที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ก็ยืนยันกลางสภาว่าสามารถเบิกจ่ายได้ ซึ่งผมเห็นว่าไม่ได้เป็นการโกหก แต่ก็ไม่ได้บอกจำนวนว่าเบิกจ่ายไปเท่าไร” กรวีร์กล่าว

 

ส่วนเงินที่เหลือไปใช้เงินของ อปท. อีกจำนวน 6.6 ล้านบาท ซึ่งกรรมาธิการฝากรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รวมถึงสุรินทร์ และศรีสะเกษ ว่าเงินงบประมาณตรงนี้รัฐบาลมีความตั้งใจอนุมัติให้ เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชน ขอให้มีการเบิกจ่ายเงินให้ไปถึงมือประชาชน ในการดูแลผู้ได้รับผลกระทบด้วยความรวดเร็ว ตรวจสอบได้ และใช้จ่ายได้ตามความจำเป็น ไม่ใช่มัวแต่กอดระเบียบเอาไว้ หวงเงินเอาไว้ไม่ยอมใช้จ่าย

 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการติดตามกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวานนี้ (5 สิงหาคม) เรื่องการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไทย-กัมพูชา ยืนยันว่า เงินที่จะช่วยเหลือประชาชนที่เสียชีวิตไม่ว่าจะเป็นพลเรือน เจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 10 ล้าน และ 8 ล้านบาท จะเป็นเงินคนละส่วนกับ 100 ล้านบาทที่ให้จังหวัดนำไปแก้ไขปัญหา จึงขอย้ำกับทุกจังหวัดและประชาชนให้เกิดความชัดเจน

 

พร้อมกันนี้ ได้มีการฝากไปถึงกระทรวงมหาดไทย อปท. และ ปภ. ซึ่งน่าเห็นใจที่จะต้องใช้เงิน อปท. มาบริหารจัดการดูแลประชาชนในพื้นที่ อยากขอบคุณนายกท้องถิ่นและทีมผู้บริหาร อปท. ทุกแห่ง ที่ใช้เงินงบประมาณของตัวเองในการช่วยเหลือดูแลประชาชน ทั้งที่มีเงินอยู่จังหวัดละ 100 ล้านบาท

 

“คำถามคือทำไมเราถึงต้องให้ภาระในการดูแลพี่น้องประชาชนไปแบกไว้กับ อปท. แทนที่แต่ละจังหวัดจะมาเร่งเบิกจ่ายและใช้เงินที่รัฐบาลจัดให้จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อไปดูแลพี่น้องประชาชน โดยที่ให้ไปกระทบกับเงินของ อปท. น้อยที่สุด” กรวีร์กล่าว

 

ส่วนเงินของจังหวัดอุบลราชธานีที่เบิกจ่ายเพียง 55,000 บาท เกิดจากการติดขัดข้อกฎหมายอะไร หรือยังไม่อยากมีการเบิกจ่ายงบประมาณ กรวีร์กล่าวว่า รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีชี้แจงว่า ช่วงแรกมีการใช้จ่ายเงินของ อปท. ไปก่อน หากเกินกำลังของท้องถิ่นค่อยใช้เงินในส่วนนี้ จึงสงสัยว่าเงินถูกอนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม จนถึงวันนี้ 6 สิงหาคม เบิกจ่ายไปเพียงแค่นี้เพียงพอหรือไม่ ซึ่งได้รับการชี้แจงว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ การใช้จ่ายเงินจะต้องมีความรอบคอบ ระมัดระวัง ซึ่งแปลกจากที่รัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานียืนยันว่าเบิกจ่ายได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของจังหวัดที่จะต้องเร่งเบิกจ่าย

 

ส่วนจะมีโอกาสเรียกระดับรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคนตัดสินใจมาในกรรมาธิการหรือไม่ กรวีร์ระบุว่า วันนี้ก็เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมาชี้แจง 2 สัปดาห์ต่อเนื่อง แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยมาเลย

 

“อยากจะฝากไปถึงท่าน เวลาท่านเชิญผู้ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ใครไม่มา ท่านบอกจะย้าย เวลากรรมาธิการใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติเชิญรัฐมนตรี ก็อยากจะให้รัฐมนตรีมาตอบ อยากให้กล้าเหมือนที่กล้ากับราชการด้วย” กรวีร์กล่าว

 

กรวีร์ย้ำด้วยว่า จังหวัดอื่นก็ใช้ระเบียบตัวเดียวกัน เช่น จังหวัดสุรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดก็ชี้แจงว่าเบิกจ่ายได้ และเบิกจ่ายไปแล้ว 50-60 ล้านบาท ซึ่งมีรายการที่จะต้องเบิกจ่าย เพราะพี่น้องประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพรู้สึกแปลกใจว่าจังหวัดอื่นไม่มีปัญหา จึงอยากฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ระบุว่า หากทำไม่ได้ก็จะหาคนอื่นมาทำ จะรอดูว่าจะทำได้หรือไม่

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising