วันนี้ (6 สิงหาคม) ไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 สำนักงาน กสทช. ได้ร่วมกับตำรวจสอบสวนกลางเข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ และพบของกลางจำนวนมาก
จากการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้อายัดอุปกรณ์หลายรายการ ได้แก่ โดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ, อุปกรณ์สำหรับตรวจจับและต่อต้านโดรน รวมถึงรถตรวจสอบคลื่นความถี่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจนับของกลางอย่างละเอียด
ไตรรัตน์ระบุว่า ได้ประสานงานกับกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบความถูกต้องในการนำเข้าอุปกรณ์ทั้งหมดแล้ว เนื่องจากพบว่าอุปกรณ์บางส่วนมีการประกอบขึ้นเองภายในบริษัท และบางส่วนเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ
จากการตรวจสอบเบื้องต้น เจ้าของบริษัทเป็นชาวสิงคโปร์ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในต่างประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการสอบปากคำผู้ดูแลบริษัทซึ่งเป็นคนไทยไปก่อน โดยหากพบว่ามีความผิดฐานทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 6 แห่ง พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ผู้กระทำผิดจะต้องได้รับโทษปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไตรรัตน์ยังเน้นย้ำถึงสถานการณ์ที่อ่อนไหวในปัจจุบัน โดยยืนยันว่าสำนักงาน กสทช. พร้อมที่จะสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานด้านความมั่นคงในทุกด้านเพื่อประโยชน์ของชาติ พร้อมทั้งขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากช่องทางสื่อสารทางการ เพื่อป้องกันผลกระทบจากการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับยุทโธปกรณ์ที่อาจเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายตรงข้าม