วันนี้ (30 กรกฎาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงผลการปฏิบัติงานด้านการปราบปรามยาเสพติดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในรอบ 10 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึง 30 กรกฎาคม 2568 โดยสามารถดำเนินคดีจับกุมได้ถึง 210,780 คดี มีผู้ต้องหา 201,529 คน และตรวจยึดยาเสพติดได้จำนวนมหาศาล
ในส่วนของของกลางที่ตรวจยึดได้นั้น พบว่ามี ยาบ้าสูงถึง 851.66 ล้านเม็ด นอกจากนี้ยังมียาเสพติดประเภทอื่น ๆ ได้แก่
- ไอซ์ 41,137 กิโลกรัม
- เฮโรอีน 1,209 กิโลกรัม
- คีตามีน 5,512 กิโลกรัม
- ยาอี 286,726 เม็ด
ที่สำคัญคือ สามารถ ตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้มูลค่ากว่า 12,417 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการตัดวงจรทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติด
นอกจากผลการดำเนินงานในภาพรวมแล้ว ตำรวจปราบปรามยาเสพติดยังได้เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นยาเสพติดรวม 8 ครั้ง ภายในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 62,616 คน ยึดอาวุธปืนได้ 2,849 กระบอก พร้อมยาเสพติดอีกจำนวนมาก และยึดทรัพย์สินได้เพิ่มอีกกว่า 4,580 ล้านบาท
ภูมิธรรม เปิดเผยว่า โดยรวมแล้วผลงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายเป็นที่น่าพอใจ แต่ยังคงต้องทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยและสบายใจจากปฏิบัติการที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าตำรวจระดับผู้บังคับการในจังหวัดภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างบางรายไม่ตอบสนองต่อนโยบายเกี่ยวกับการขยายผลคดีสมคบยาเสพติด ซึ่งอาจส่งผลต่อการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปีที่จะถึงนี้
ภูมิธรรมเน้นย้ำว่า รัฐบาลทำอย่างเต็มที่และเคร่งครัด แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน หากมีเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือละเลยหน้าที่อย่างชัดเจน จะไม่ละเว้น และหากมีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ก็จะมีผลต่อการโยกย้ายในวาระประจำปีอย่างแน่นอน