วันนี้ (22 กรกฎาคม) ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงพายุวิภาที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยว่า พายุวิภาขณะนี้เคลื่อนตัวจากจีนเข้าสู่เวียดนาม และคาดว่าวันที่ 23-24 กรกฎาคมนี้ จะเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทย ซึ่งจะต้องระวังพายุฝนฟ้าคะนองที่จะรุนแรง โดยขอให้รอฟังประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ให้ประชาชนรับมือและปฏิบัติตัวให้ถูกต้องในช่วงพายุพัดเข้าไทย
ส่วนความพร้อมในการรับมือฝนฟ้าคะนองที่อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วม ประเสริฐกล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือคาดว่าจะโดนส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนเป็นภาคอีสานตอนบน ส่วนจังหวัดเชียงรายหน่วยงานเตรียมพนังกั้นน้ำ วางกระสอบทราย และแบริเออร์ เรามีประสบการณ์จากปีที่แล้วก็นำมาแก้ไข และขุดลอกลำน้ำไปส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งต้องรับมือสถานการณ์ให้ดีที่สุด ส่วนการแจ้งเตือนภัยขณะนี้ก็ไม่มีปัญหาพี่น้องประชาชนได้รับการแจ้งเตือนภัยแล้ว และตนเองไม่หนักใจ
ประเสริฐกล่าวอีกว่า การทำงานร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA มีการตรวจสอบดูทุกชั่วโมงในการดูดาวเทียม ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จากกระทรวงมหาดไทย ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยาก็ดูเรื่องอากาศ
ด้าน ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับมือพายุวิภา ว่า ปภ. ได้ตรวจสอบเรื่องสถานการณ์พายุวิภาที่กำลังจะเคลื่อนผ่านประเทศไทยตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้มีการส่งข้อความเตือนไปยังพื้นที่ให้รับทราบ รวมถึงมีการเตรียมความพร้อม
ขณะนี้ในพื้นที่ภาคเหนือโดย ปภ. ได้นำเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ และกำลังคน ระดมเข้าพื้นที่ที่มีความเสี่ยงแล้ว มีการจัดเตรียมศูนย์พักพิงเอาไว้ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและมีความเสี่ยงสูง สามารถย้ายเข้ามาได้ในทันที
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถจัดการได้ทันที ขณะที่ ปภ. ได้ตั้งวอร์รูม 24 ชั่วโมง หากเกิดปัญหาประชาชนสามารถโทรสายด่วน 1784 ได้ และให้อธิบดี ปภ. ลงพื้นที่ในขณะนี้ เพื่อให้เกิดความใกล้ชิดและอำนวยความสะดวกให้เกิดความรวดเร็ว
ธีรรัตน์กล่าวว่า ส่วนพื้นที่ที่เป็นปัญหามีในหลายพื้นที่ แต่ที่เห็นเป็นน้ำท่วมนั้นเกิดจากน้ำไหลหลากเข้ามาและจะผ่านไป ไม่ได้มีความเสียหายเกิดขึ้น และพี่น้องประชาชนได้เตรียมการพร้อมรับอยู่แล้ว