ราคา Bitcoin สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลก พุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ (All-Time High) ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยในวันนี้ (11 กรกฎาคม) ราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่กว่า 118,000 ดอลลาร์ หลังจากที่เพิ่งทำลายสถิติไปเมื่อคืนวันก่อนที่ระดับ 116,626 ดอลลาร์
การทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงครั้งนี้ตอกย้ำมุมมองเชิงบวกของนักลงทุน โดยได้รับแรงหนุนสำคัญจากสองปัจจัยหลัก คือ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนสถาบันและภาคธุรกิจ และความคาดหวังต่อกรอบกฎหมายที่ชัดเจนและเป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น ภายใต้รัฐบาล โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
สถาบัน-บริษัทใหญ่แห่ตุน BTC ไม่หยุด
การปรับตัวขึ้นของ Bitcoin รอบนี้แตกต่างจากในอดีต โดยมีแรงซื้อที่จับต้องได้จากกลุ่มนักลงทุนสถาบันและบริษัทจดทะเบียนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยดูดซับอุปทานในตลาดและสร้างเสถียรภาพให้กับราคา
โจชัว จู ประธานร่วมของ Hong Kong Web3 Association กล่าวว่า “การทำสถิติสูงสุดใหม่ของ Bitcoin ครั้งนี้ขับเคลื่อนโดยการสะสมอย่างไม่หยุดยั้งของนักลงทุนสถาบัน ผู้เล่นรายใหญ่กำลังกว้านซื้ออุปทานและทำให้สภาพคล่องในตลาดแลกเปลี่ยนลดน้อยลง”
ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการเข้าลงทุนของบริษัทต่างๆ เช่น GameStop บริษัทค้าปลีกเกมชื่อดัง ได้เข้าซื้อ Bitcoin มูลค่าประมาณ 513 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หรือ Trump Media and Technology Group บริษัทสื่อของโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่าจะระดมทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างคลังสำรอง Bitcoin ของบริษัท และยังมีแผนจะเปิดตัวกองทุน ETF ที่ลงทุนในคริปโตหลายสกุลรวมถึง Bitcoin ด้วย
จับตา Crypto Week สหรัฐฯ จ่อดันกฎหมายคริปโต
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หนุนความเชื่อมั่นคือความเคลื่อนไหวเชิงบวกจากฝั่งการเมืองและกฎระเบียบในสหรัฐฯ รัฐบาลของทรัมป์แสดงท่าทีสนับสนุนคริปโตมาโดยตลอด ได้มีการแต่งตั้งบุคคลที่เป็นมิตรต่ออุตสาหกรรมเข้าสู่ตำแหน่งสำคัญ เช่น พอล แอตกินส์ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) และเดวิด แซคส์ ที่ปรึกษาด้าน AI ของทำเนียบขาว
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อเดือนมีนาคมเพื่อจัดตั้งคลังสำรองคริปโทเคอร์เรนซีเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ
ล่าสุด คณะกรรมาธิการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎรซึ่งนำโดยพรรครีพับลิกัน ได้ประกาศให้สัปดาห์ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้เป็น ‘Crypto Week’ ซึ่งสภาจะพิจารณาร่างกฎหมายที่เป็นมิตรต่อคริปโตหลายฉบับ รวมถึง GENIUS Act โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้สหรัฐฯ กลายเป็นเมืองหลวงคริปโตของโลก
สำหรับ GENIUS Act ซึ่งผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม ถือเป็นกฎหมายของรัฐบาลกลางฉบับแรกที่จะกำกับดูแลผู้ออก Stablecoin โดยกำหนดให้ต้องมีสินทรัพย์สำรองเพื่อค้ำประกัน ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตลาด Stablecoin ที่มีมูลค่ากว่า 2.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ได้มากขึ้น
มูลค่าตลาดคริปโตพุ่ง 1.6 แสนล้านดอลลาร์ใน 24 ชั่วโมง
การปรับตัวขึ้นของ Bitcoin ได้ส่งผลบวกต่อตลาดคริปโตในภาพรวม โดยข้อมูลจาก CoinGecko ระบุว่า มูลค่าตลาดคริปโตรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้นประมาณ 1.6 แสนล้านดอลลาร์ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สู่ระดับ 3.69 ล้านล้านดอลลาร์ สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ก็ปรับตัวขึ้นอย่างคึกคักเช่นกัน เช่น Ethereum +5-7%, XRP +5.3%, Solana +4.3% และ Dogecoin +6.2%
การทะยานขึ้นของ Bitcoin เกิดขึ้นในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่าง Nasdaq และ S&P 500 ก็ทำสถิติปิดสูงสุดใหม่เช่นกัน และ Nvidia กลายเป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ยังคงเป็นบวก
สถานการณ์ล่าสุดตอกย้ำว่า Bitcoin กำลังเปลี่ยนผ่านจากการเป็นเพียงสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไร สู่การเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับจากภาคธุรกิจและนักลงทุนสถาบันมากขึ้น โดยมีนโยบายและกฎระเบียบจากมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐฯ เป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของตลาดในระยะต่อไป
ภาพ: May James/SOPA Images/LightRocket via Getty Images
อ้างอิง:
