×

ทำไมเรดบูล เรซซิง ถึงปลด คริสเตียน ฮอร์เนอร์

09.07.2025
  • LOADING...
คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ยืนข้างรถแข่งเรดบูล ก่อนถูกปลดจากตำแหน่งทีมบอสกลางฤดูกาล F1 2025

ข่าวใหญ่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตเมื่อเย็นที่ผ่านมา (9 กรกฎาคม) และอาจจะเรียกได้ว่าเป็นข่าวใหญ่ในวงการกีฬาโลกเลยก็ว่าได้ กับการที่เรดบูล เรซซิง ตัดสินใจปลด คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ออกจากตำแหน่งทีมบอสและ CEO ชนิดที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า

 

ฮอร์เนอร์สิ้นสุดบทบาท 20 ปีของเขาในฐานะทีมบอสในศึก F1 โดยเขาเป็นหัวหน้าทีมที่อยู่กับทีมเดียวมายาวนานที่สุดด้วย

 

ยังไม่มีการยืนยันที่แน่นอนว่าสาเหตุใดทำให้เรดบูลตัดสินใจแยกทางกับฮอร์เนอร์ในช่วงครึ่งทางของฤดูกาล F1 แบบนี้ แต่เหตุผลโดยรวมแล้วน่าจะมีอยู่ไม่กี่ข้อ

 

เรื่องแรก เป็นประเด็นอื้อฉาวส่วนตัวที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน หลังจากที่เขาต้องเจอกับข้อกล่าวหาเรื่องพฤติกรรมที่ละเมิดต่อพนักงานหญิงในทีม แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธมาตลอด และมีการสืบสวนภายในก็มีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2024

 

ต่อมาแม้ว่าเรดบูลจะประกาศให้เขาพ้นจากข้อกล่าวหาในเดือนมีนาคมปีเดียวกัน แต่การรั่วไหลของข้อมูล รวมถึงภาพแคปหน้าจอของข้อความที่เป็นหลักฐานประกอบการกล่าวหาก็ยังคงแพร่หลาย นั่นทำให้มันกลายเป็นรอยด่างพร้อยที่ทำให้เขาเริ่มขาดความ ‘สง่างาม’ ในฐานะทีมบอสของทีมจากออสเตรีย

 

แต่ลำพังแค่ความไม่สง่างามในการเป็นทีมบอสก็คงจะทำอะไรเขาไม่ได้ หากไม่ได้ประกอบกับการที่เรดบูล เรซซิง ผลงานย่ำแย่ลงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา

 

แม้ว่าเรดบูลจะประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2023 แต่ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ฮอร์เนอร์ก็เผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่ยากลำบากทั้งในและนอกสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีนี้ที่ทีมทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร

 

รถ RB21 มีปัญหาด้านการควบคุมที่คาดเดาไม่ได้ และนักขับพรสวรรค์เบอร์ 1 ของทีมอย่าง แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน ก็ต้องรับบท ‘เดอะแบก’ อย่างหนัก จนคว้าชัยชนะได้เพียงแค่ 2 เรซ จากครึ่งแรกของฤดูกาลนี้เท่านั้น ซึ่งนั่นส่งผลโดยตรง ทำให้ทีมมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถคว้าแชมป์โลกในปีนี้ และหากเกิดขึ้นจริงก็จะกลายเป็นการจบฤดูกาลด้วยมือเปล่าครั้งแรกของทีมตั้งแต่ปี 2020 ด้วย

 

นอกจากนี้ ฮอร์เนอร์ยังมีความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ลงอย่างมากกับบ้านเวอร์สแตพเพน โดยเฉพาะกับ จอส เวอร์สแตพเพน พ่อของแม็กซ์ ซึ่งเคยแสดงความกังวลว่าการเป็นผู้นำของฮอร์เนอร์อาจทำให้ทีมแตกแยก และด้วย 2 ปัจจัยข้างต้น ทำให้ข่าวลือการจากไปยังเมอร์เซเดสของนักขับชาวดัตช์ยิ่งหนาหูขึ้นทุกวัน

 

ยิ่งไปกว่านั้น ตลอดช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ภายใต้การทำงานของฮอร์เนอร์ ทีมยังสูญเสียกำลังสำคัญไปอีกหลายคน โดยหนึ่งในนั้นคือ เอเดรียน นิวอี นักออกแบบระดับตำนานที่ย้ายไปร่วมงานกับแอสตันมาร์ติน รวมไปถึง โจนาธาน วีตลีย์ ผู้อำนวยการกีฬาที่ไปทำงานกับทีมเซาเบอร์ด้วย

 

หากข้างบนนั้นคิดว่าสถานการณ์ของฮอร์เนอร์ย่ำแย่แล้ว แต่ตะปูตอกฝาโลงตัวสุดท้ายกลับเป็นชื่อที่คนไทยส่วนมากรู้จักกันดี นั่นคือ ‘เฉลิม อยู่วิทยา’ หรือเจ้าพ่อกระทิงแดงนั่นเอง

 

เกร็ก สเลเตอร์ ผู้สื่อข่าวของ Sky Sports รายงานว่า สาเหตุสำคัญที่ฮอร์เนอร์หลุดออกจากตำแหน่งทีมบอสและ CEO ของเรดบูล เรซซิง เป็นเพราะเขาสูญเสียการสนับสนุนจาก เฉลิม อยู่วิทยา ถือหุ้นใหญ่ 51% ของเรดบูล ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นพันธมิตรคนสำคัญของเขา และยืนเคียงข้างเขาผ่านปัญหาต่างๆ

 

การสูญเสียการสนับสนุนนี้ทำให้ฮอร์เนอร์ตกอยู่ในสถานะที่เปราะบาง ประกอบกับความแตกแยกภายในทีมเรดบูลที่มีมาสักระยะหนึ่งแล้ว โดยเฉพาะระหว่างฝ่ายผู้ถือหุ้นชาวออสเตรีย ซึ่งคือครอบครัวมาเตชิตซ์ที่ถือหุ้น 49% กับฝ่ายผู้ถือหุ้นชาวไทย ทำให้สถานะของฮอร์เนอร์พร้อมจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ถ้าไม่มีคนหนุนหลัง และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้น

 

การปลด คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ในช่วงกลางฤดูกาลเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ และอาจทำให้ทีมเผชิญกับความท้าทายในระยะสั้น

 

มีบทวิเคราะห์มองว่า เรดบูลพร้อมที่จะทิ้งอีกครึ่งฤดูกาลที่เหลือ เพื่อดำรงรักษาตำแหน่งของ แม็กซ์ เวอร์สแตพเพน เอาไว้กับทีมต่อไป เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่า จอส พ่อของแม็กซ์ ไม่พอใจฮอร์เนอร์พอสมควร แต่เมื่อไม่มีฮอร์เนอร์แล้ว หลายอย่างอาจจะเปลี่ยนไป

 

ประกอบกับทิศทางการตอบคำถามสื่อของฮอร์เนอร์ที่เหมือนจะปล่อยแม็กซ์ไปจากทีมหากจำเป็น ทำให้ฝ่ายบริหารของเรดบูลอาจจะอยากต้องการเก็บนักขับดีกรีแชมป์โลก 4 สมัยไว้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลหน้า เป็นฤดูกาลที่ F1 มีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

 

เวลาราว 6 เดือน อาจจะมากพอสำหรับที่จะให้ใครก็ตามที่มารับงานต่อจากเขา (ซึ่งปัจจุบันเป็น ลอเรนต์ แมกีส์ จากเรซซิงบูลส์ที่ได้รับการโปรโมตขึ้นมา) มีเวลาในการปรับตัวกับทีมเพื่อเตรียมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะมาถึง

 

ขณะที่บางสื่อก็เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีเรื่องราวการเมืองภายในเรดบูลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะหลังการจากไปของ ดีทริช มาเตชิตซ์ เรดบูลต้องการบริหารงานอย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้น ทำให้องค์กรเรดบูลค่อยๆ เปลี่ยนแปลงภายในจนกลายเป็นปรากฏการณ์โดมิโน ที่แต่ละตัวค่อยๆ ล้มหายตายจาก จนสุดท้ายก็มาถึงฮอร์เนอร์ในที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าตลอด 20 ปีที่ฮอร์เนอร์ดูแลเรดบูล เรซซิงมา เขาสร้างทีมแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จและน่าสนใจที่สุดใน F1

 

เรดบูลได้แชมป์โลกทีมผู้ผลิต 6 สมัย และแชมป์โลกประเภทบุคคลอีก 8 สมัย คว้าชัยไปได้ 124 ครั้ง และขึ้นโพเดียมไปถึง 284 ครั้ง

 

เขาเป็นผู้ที่เปลี่ยนจากทีมจากัวร์ที่ไม่มีชีวิตชีวาให้กลายเป็นเรดบูลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง และเป็นผู้สร้าง งมหาอำนาจ F1 ทีมใหม่ง อย่างแท้จริง

 

ดังนั้น เรดบูล เรซซิง ในยุคที่ไร้ชายที่ชื่อ คริสเตียน ฮอร์เนอร์ อาจจะต้องเจอกับความยากลำบากจากความเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อย ซึ่งนั่นขึ้นอยู่กับว่า ลอเรนต์ แมกีส์ จะทำหน้าที่ของเขาได้ดีแค่ไหน

 

ส่วนเรดบูลอาจจะได้ในสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง คือการรักษาแม็กซ์ไว้กับทีมได้ต่อไป หรืออาจจะไม่ก็ได้ เพราะรายงานล่าสุดทางเมอร์เซเดสก็อนุมัติให้ทีมล่าลายเซ็นเขาได้อย่างเต็มที่เช่นกัน

 

หนึ่งในบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจมาจาก มาร์ก ฮิวจ์ กูรูจากมอเตอร์สปอร์ตแมกกาซีน ที่มองว่าในดีลนี้อาจจะไม่มีผู้ชนะในเรดบูลเลยก็ได้

 

สถานการณ์ที่ฮิวจ์หมายถึงคือ ทีมผลงานแย่กว่าเดิมในฤดูกาลนี้ แถมฤดูกาล 2026 ก็ยังล้มเหลวเพราะไม่มีคนอย่างฮอร์เนอร์ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในช่วงเปลี่ยนผ่านคอยประคอง ซ้ำร้ายแม็กซ์ก็อาจจะไปจากเรดบูลอยู่ดี

 

ซึ่งแน่นอนว่าผลลัพธ์แบบนี้เป็นผลลัพธ์ที่เรดบูลคงไม่อยากให้เกิดขึ้นที่สุด แต่ก็อาจจะเกิดขึ้นได้ก็ได้

 

แม้การตัดสินใจของเรดบูลครั้งนี้มาในช่วงเวลาที่แปลก เพราะมันเกิดขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล สุดท้ายก่อนจะเข้าสู่กติกาใหม่ปี 2026 แต่แน่นอนว่ากีฬาอย่าง F1 ไม่มีพื้นที่ให้การตัดสินใจช้า แค่การตัดสินใจเร็วในบางครั้งก็ไม่ถูกเสมอไป 

 

สิ่งเดียวที่จะให้คำตอบได้คือ…เวลาเท่านั้น

 

ป.ล. สำหรับ คริสเตียน ฮอร์เนอร์ ไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก เพราะจากโปรไฟล์แล้ว หากเขายังอยากทำงานใน F1 ต่อไป คาดว่าจะมีหลายทีมมาต่อแถวรอขอสัมภาษณ์เขาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะทีมใหม่จากสหรัฐอเมริกา เพราะหลังมีข่าวปลดเขาไม่กี่ชั่วโมง ข่าวลือก็มาเต็มแล้ว!

 

ภาพ: Red Bull Media House

อ้างอิง

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising