วันนี้ (8 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังจาหคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรออกไปก่อน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยระบุว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งใจถอนร่างดังกล่าว จุลพันธ์ยืนยันว่า ไม่ได้ห่วงเรื่องเสียงในสภา ในวันนี้ได้มีการย้ำในที่ประชุมว่า ครม. ก็ต้องไปทำงานที่สภา เพราะเสียงไม่ได้เยอะเหมือนแต่ก่อน แต่การเป็นรัฐบาลนั้นก็ต้องมั่นใจ ว่ามีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการถอนหรือเลื่อน ล้วนต้องใช้เสียงข้างมากทั้งสิ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการกล่าวอ้างว่ามีบางพรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย จึงจำเป็นต้องถอนไปก่อน จุลพันธ์กล่าวว่า ยังไม่มีพรรคใดระบุว่าไม่เห็นด้วย แต่สาเหตุที่ถอนเพราะต้องการให้มีการพิจารณาอีกครั้ง เพราะ ครม.เปลี่ยนตัวจำนวนมาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่ใช่การยกเลิกใช่หรือไม่ จุลพันธ์ย้ำว่า ถอนครับ เราต้องใช้คำที่อยู่ในกฎหมาย
จุลพันธ์กล่าวต่อว่า เราต้องยอมรับความจริง องค์ประกอบของรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เหมาะสมที่จะดึงกลับมาให้ทุกคนได้พิจารณาอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็มีจังหวะเวลาในการทำความเข้าใจกับสังคมให้มากขึ้น เพราะเวลานี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เวลาที่จะเหมาะสมเมื่อไรนั้น จุลพันธ์กล่าวว่า ตนเองก็ยังตอบไม่ได้ แต่สถานการณ์การเมืองในเวลานี้ ก็เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่เห็นว่าควรชะลอ และรอเวลาที่เหมาะสมก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถาม พรรคภูมิใจไทยระบุว่า รัฐบาลกลัวเสียงในสภา เนื่องจากมีพรรคร่วมบางพรรคอาจจะไม่โหวตให้ จุลพันธ์กล่าวว่า ตนเองยังไม่ได้ยินว่าจะมีพรรครัฐบาลพรรคใดไม่โหวตให้ ขณะนี้ยังไม่ได้รับสัญญาณใดๆ ดังนั้นความเชื่อมั่นในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลนั้นเรายังมีความเชื่อมั่น ส่วนจำนวนเสียงในสภา เราต้องมั่นใจว่าเกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้นประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นที่เราห่วงใย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดการถอนร่างกฎหมายนี้ ต้องนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่สามารถถอนในรัฐสภาใช่หรือไม่ ขั้นตอนตามกฎหมายเป็นอย่างไร จุลพันธ์กล่าวว่า การถอนครั้งนี้กระบวนการเป็นไปตามกฎหมาย เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวนี้เสนอผ่านคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นบุคคลที่เสนอเรื่องเข้ามา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จะเป็นกลไกตามปกติ หลังจากนี้ก็คาดว่าจะมีร่างกฎหมายเข้ามาอีกจำนวนมาก ที่เสนอโดยรัฐมนตรีที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่แล้ว จึงถือว่าเป็นเหตุเป็นผลที่เหมาะสม เนื่องจากมีบางกระทรวงกำลังพิจารณาว่าบางฉบับอาจจะต้องให้รัฐมนตรีใหม่มาพิจารณาให้รอบคอบก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ว่าหากจะนำร่างพระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจรเข้าสู่ที่ประชุมสภา ต้องผ่านคณะรัฐมนตรีหรือไม่ จุลพันธ์กล่าวว่า ถูกต้อง ต้องเริ่มต้นใหม่ เข้าสู่กระบวนการของคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นโยบายดังกล่าวนี้เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย แล้วเมื่อไรจะได้ทำ จุลพันธ์กล่าวว่า เราอยู่กับความเป็นจริง นาทีนี้อาจจะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เรายอมรับและต้องยอมถอยหนึ่งก้าว เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้ รัฐบาลก็จะมองถึงจังหวะเวลาที่มีความพร้อมและเหมาะสมต่อไป ไม่ได้เป็นประเด็นคอขาดบาดตาย แต่ส่วนตัวรู้สึกเสียดายความล่าช้า จะเป็นการสูญเสียโอกาสของประเทศ ตนเองมีความเชื่อมั่นว่า Entertainment Complex จะเป็นนโยบายที่เกิดการขับเคลื่อนปรับเปลี่ยนโครงสร้างของประเทศได้อย่างรูปธรรม มองว่าก็น่าเสียดาย ช้าแค่ไหนก็คือความสูญเสียของประเทศ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา มั่นใจหรือไม่ว่าจะผ่านได้ จุลพันธ์กล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลเราก็ต้องมั่นใจว่าเสียงเกินครึ่ง