วันนี้ (3 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล การประชุมคณะรัฐมนตรีที่มี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ภายหลังจากนำคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่แล้วนั้น
การประชุมครั้งนี้ เริ่มขึ้นในเวลา 13.00 น. และจบลงในเวลา 13.39 น. เนื่องจากในเวลาใกล้กัน อัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอให้มีการนับองค์ประชุมก่อนที่มีการรับรายงานของหน่วยงานต่างๆ ส่งผลให้รัฐมนตรีซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในคณะรัฐมนตรี ต้องรีบออกจากห้องประชุม และเดินทางไปยังอาคารรัฐสภา เพื่อแสดงตนเป็นองค์ประชุม
ทั้งนี้ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาล รองประธานสภาคนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่การประชุมได้สั่งปิดประชุมไปก่อนที่จะมีการแสดงผล เนื่องจากมีสมาชิกแสดงตนเพียง 187 คนเท่านั้น
ทำให้การประชุมสภา ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมปีที่ 3 ได้จบลงในเวลา 13.58 น.
สำหรับท่าทีของรัฐบาลนั้น แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการประชุมล่มในวันแรก แต่ตอบคำถามของสื่อมวลชนที่ถามว่าที่ถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะทำงาน ยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับคดีถอดถอนออกจากตำแหน่งฯ อันเนื่องมาจากจากคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา หรือไม่ โดยแพทองธารตอบกลับเพียงว่า “สื่อมีคำถามทุกวันเลย” จากนั้นเดินขึ้นรถเพื่อไปยังตึกไทยคู่ฟ้าทันที
ขณะที่ ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปกติเวลาจะนับองค์ประชุมก็มักจะมีกรณีขัดแย้งเรื่องต่างๆ แต่เท่าที่ฟัง ครั้งนี้เขาขอนับเลย ซึ่งโดยปกติวันพฤหัสบดีคนจะน้อยอยู่แล้ว เพราะเป็นเรื่องกระทู้ถาม และ สส. มักจะออกไปประชุม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และหากเจอเกมแบบนี้ หลังจากนี้สภาจะไปต่อได้หรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นบทเรียนว่าหลังจากนี้เขาจะนับองค์ประชุมทุกเวลา ส่วนจะรับมืออย่างไรนั้น ก็ต้องให้ สส.มา ยืนยันว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยอยู่ครบ และ ได้บอกกับรัฐมนตรีของพรรคว่า วันพุธและพฤหัสบดีให้เอางานไปทำที่สภาเลย ถือว่าวันนี้เป็นอุทาหรณ์ ต้องไปปรับกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีวลีว่า หน้าที่รักษาองค์ประชุมเป็นเรื่องของรัฐบาล ชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็ถูก แต่โดยปกติวันพฤหัสบดีจะไม่ค่อยคำนึงถึงองค์ประชุมกันเท่าไหร่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้เรื่ององค์ประชุมจะเป็นเกมการเมืองหรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ ก็ถือเป็นบทเรียนไปปรับกระบวนท่า ส่วนมองว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองมากไปหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่จะคิด แต่ย้ำว่า การนับองค์ประชุมเกิดจากความขัดแย้ง ตกลงกันไม่ได้ จึงเอาชนะกันด้วยองค์ประชุม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องคาดโทษ สส. ที่ไม่มาประชุมหรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า แกนนำต้องพูดคุยกัน อย่างไรก็ตามจากที่ตนเช็ค พรรคเพื่อไทยมากัน 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่ทราบว่าพรรคร่วมฯ มาไม่มาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในอนาคตหากมีกฎหมายสำคัญของรัฐบาลจะมีปัญหาหรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นอุทาหรณ์ให้เราต้องไปปรับกระบวนท่าให้ชัดเจน