วันนี้ (1 กรกฎาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหลังจากที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตนพ้นตำแหน่งจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า เมื่อโปรดเกล้าโปรดฯ มาแล้ว ในส่วนของ ครม. ที่ไม่ถูกให้พ้นจากตำแหน่งก็ยังเข้าร่วมประชุมได้อยู่ ส่วนตนที่พ้นจากตำแหน่งนั้นไม่สามารถเข้าร่วมประชุม ครม. วันนี้ได้ เนื่องจากต้องรอถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อน หลังจากที่มีแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ภูมิธรรมกล่าวยกตัวอย่างว่า หากวันนี้โปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ไม่ถอดออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีก็จะยังเข้าประชุมในฐานะรองนายกรัฐมนตรีได้ แต่วันนี้ประกาศที่ออกมาเขียนว่า ให้พ้นจากทั้งสองตำแหน่ง คือทั้งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดังนั้นตอนนี้ตนจึงไม่มีตำแหน่งจึงเข้าร่วมการประชุม ครม. ไม่ได้
ส่วนกระทรวงกลาโหมที่ขณะนี้ยังเว้นว่างตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ อยู่นั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการแทนก็ยังทำหน้าที่ได้อยู่ ซึ่งเป็นผู้รอบรู้และเป็นผู้ประสานงานที่ดี ที่ผ่านมาก็ได้ช่วยกันทำงานมาตลอด จึงเชื่อมืออยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุที่จะต้องรอการแต่งตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นเพราะต้องการรอให้อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดเข้ามาทำหน้าที่ใช่หรือไม่ ภูมิธรรม ระบุว่า ไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรีคิดอะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การโปรดเกล้าฯ ในวันนี้มองว่ามีสัญญาณทางการเมืองอะไรหรือไม่ ภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่ได้ประเมินอะไร พวกเราในฐานะ ครม. ใครจะพ้นหรือใครจะอยู่ ก็ยืนอยู่บนฐานคิดที่ว่าประเทศไทยจะต้องเดินหน้าต่อ หยุดไม่ได้เลยแม้แต่วันเดียว เพราะฉะนั้นต้องรีบทำงาน รัฐมนตรีใหม่ที่เข้ามาก็ต้องพร้อมที่จะทำงาน แต่สัญญาณที่ชัดเจนคือทุกคนพร้อมเดินหน้าทำงานและเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีจะยังสามารถนำพาพวกเราไปแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งได้วางไว้ทั้งหมดแล้ว
ภูมิธรรมยังกล่าวถึงในมุมของพรรคเพื่อไทยว่าถือเป็นสัญญาณบวกในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องคดีของนายกรัฐมนตรี ว่าตนเชื่อในสิ่งที่นายกรัฐมนตรีทำไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย ขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าจะเป็นผู้นำในการทำงานได้เหมือนเดิม ส่วนที่มีกระบวนการฟ้องร้องกันก็ว่ากันไปตามกระบวนการ ถ้าติดตามการทำงานก็จะเห็นว่านายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจและมุ่งมั่นยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ ภูมิธรรม ได้กล่าวทิ้งท้ายถึงรายชื่อผู้ที่จะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี หากนายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ว่าจะต้องเป็น สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
