×

คุยกับ ‘พิชัย’ รมว.คลัง กับแผนนำทีมไทยแลนด์เจรจาภาษีสหรัฐฯ หลังได้คิวคุย 3 ก.ค. นี้ ก่อนขีดเส้นตาย 8 ก.ค. ย้ำเงื่อนไขวิน-วินทั้ง 2 ฝ่าย

30.06.2025
  • LOADING...
พิชัย เจรจาภาษีสหรัฐ

‘พิชัย’ รมว.คลัง เปิดเผยในรายการ Morning Wealth ระบุ คืนนี้เตรียมเดินทางบินไปเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ ยันกำหนดการเจรจากับสหรัฐ วันที่ 3 กรกฎาคมนี้ ย้ำเงื่อนไขวิน-วินทั้ง 2 ฝ่าย  

 

วันที่ 30 มิถุนายน พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ทีมไทยแลนด์มีกำหนดเดินทางไปยังสหรัฐฯฯ ในคืนนี้ เพื่อหารือกับสหรัฐฯ ในวันที่ 3 กรกฎาคม ซึ่งยอมรับว่าขณะนี้การเจรจาภาษีระหว่างไทยกับสหรัฐเป็นความกังวลของทุกคน เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ หลังจากกำหนดนัดการเจรจากับสหรัฐฯ ในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้

 

ทั้งนี้ การหารือและการเจรจาทีมไทยแลนด์ไม่ได้เพิ่งเริ่มต้น ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกันในรายละเอียดมานานและหลายครั้ง ทั้งในรูปแบบทางการและไม่เป็นทางการ  

 

ดังนั้นการเดินทางครั้งนี้เป็นการเก็บตกประเด็นที่เหลือ โดยยึดถือข้อเสนอของไทยเป็นหลัก และนำเงื่อนไขของสหรัฐมาพิจารณาว่าต้องการอะไร อย่างไร

 

“เราจะวางโจทย์ให้เป็นวิน-วินทั้งสองฝ่าย โดยที่ทั้งสองฝ่ายมีความต้องการที่สอดคล้องกัน”

 

อย่างไรก็ตาม นอกจากประเด็นภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ยังมีการหารือประเด็น อื่นๆ อาทิ อุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff) เช่น กฎเกณฑ์ กติกา และความไม่สะดวกทางการค้า ซึ่งถือเป็น ‘โอกาสดี’ ที่ไทยจะได้ทบทวนและปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการนำเข้าและส่งออก ในอนาคตอีกด้วย

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

“สหรัฐฯ ทราบดีว่าไทยมีความสำคัญกับการค้าภูมิภาคนี้ ดังนั้นแม้ที่ผ่านมา ผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) มีการพูดคุยกับหลายประเทศ แต่ละประเทศก็ยังไม่กล้าตอบว่าการเจรจาไปถึงระดับใด และยังไม่มีประเทศใดที่ตกผลึก หรือเจรจาสำเร็จง่ายๆ แม้จะมีข่าวลือออกมาเป็นระยะ จึงคิดว่าท้ายที่สุดแล้ว ก็น่าจะเห็นการเลื่อนกำหนดการบังคับใช้อัตราภาษีใหม่ก็เป็นได้”

 

สำหรับประเทศไทยที่กำหนดอัตราภาษีที่ 36% แต่หลายสำนักต่างคาดการณ์ว่าจะถูกเก็บจริงที่ 18% นั้น 

 

พิชัยระบุว่า “เป็นเพียงการคาดการณ์ของนักวิชาการ สำนักวิจัย เพื่อใช้ในการประเมินอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ซึ่งท้ายที่สุดยังไม่มีใครทราบตัวเลขที่แท้จริง ว่าสหรัฐ จะเก็บภาษีไทยเท่าใด ซึ่งอาจจะต่ำกว่า 18%”

 

อย่างไรก็ตาม จุดยืนของประเทศไทยในการเจรจานั้น ไม่ว่าสหรัฐฯ จะเก็บภาษีเท่าใด ขอเพียงอย่างเดียวคือ

 

“อย่าเก็บเรามากกว่าคนอื่น เพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย ซึ่งเข้าใจว่าประเทศอื่นๆ คิดเช่นเดียวกัน”

 

เนื่องจากหากไทยไม่สามารถรักษาขีดความสามารถในการแข่งขันได้ ก็จะเกิดปัญหาไม่จบ ดังนั้น การรวมกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อเจรจาเป็นข้อห้าม ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดที่สามารถสรุปผลการเจรจาได้ง่ายๆ เนื่องจากการพูดคุยลงรายละเอียดแล้วมักจะมีข้อมูลและข้อกำหนดเพิ่มเติมตามมา แต่ละประเทศมีฐานะไม่เหมือนกัน

 

“ข่าวก็คือข่าว เท่าที่สัมผัสหลายประเทศไม่มีใครกล้าตอบ มีเพียงบอกว่า ยังไปไม่ถึงไหน”

 

พิชัยกล่าวถึงงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.15 แสนล้านบาท อีกว่า การใช้งบประมาณภายใต้กฎกติกานั้นต้องแล้วเสร็จภายในปลายปีหน้าไม่เกิน 30 กันยายน แม้มีหลายความเห็นสะท้อนว่าเป็นเพียงมาตรการกระตุ้นระยะสั้น แต่ สิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการนั้น สามารถต่อยอดถึงการวางนโยบายระยะยาว 

 

“ถามว่าประเทศไทยมีปัญหาอะไร ก็ทราบกันดีว่ามีปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งสิ่งที่จับต้องได้และไม่ได้ น้ำ ถนน ไฟฟ้า ที่ดิน หรือกฎเกณฑ์ กฎหมายซ้ำซ้อน เมื่อเห็นปัญหาก็ต้องแก้ไขกันไป ทุกครั้งที่มีนักลงทุนรายใหญ่ๆเข้ามาเขามักถามว่า มาเมืองไทยดีไหม ที่ดิน กฎระเบียบวางระยะยาวได้หรือไม่ รวมถึง น้ำ ไฟฟ้าเพียงพอหรือไม่ ทั้งสีเขียวและสีขาว ราคาแพงหรือไม่ ฉะนั้น เชื่อมั่นว่านักลงทุนเชื่อมั่นในไทย” 

 

ทั้งนี้ การใช้งบประมาณต้องมีความโปร่งใส อยู่ภายใต้คณะทำงานกำกับดูแลโครงการ และสิ่งที่มุ่งหวังมากที่สุดคือ ต้องทำให้เศรษฐกิจ GDP โตขึ้นให้ได้ ซึ่งเศรษฐกิจจะเดินได้ต้องแก้หนี้ครัวเรือน ปรับโครงสร้าง ไปพร้อมกับกระตุ้นการลงทุน

 

ส่วนนโยบายการเงิน การคลัง ปัญหาค่าเงินบาท ถ้าเราเข้าใจกันคุยกันได้ และแน่นอนว่า

 

“คนที่จะดูแลแบงก์ชาติได้ต้องมีความเข้าใจ ทั้งการเงิน และการคลัง ซึ่งทั้งสองท่านที่เป็นแคนดิเดตผู้ว่าแบงก์ชาติต่างมีคุณสมบัติและจุดเด่นในแต่ละด้านต่างกัน ถามว่าตอนนี้ มีในใจหรือไม่ กำลังคิดอยู่ ผมคุยกันกับทั้งสองบ่อยมาก นั่งคุยกันบ่อย ทราบถึงความคิดและบุคลิกทั้งสองท่านดี” พิชัยกล่าว

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising