วันนี้ (26 มิถุนายน) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ชายแดน ด่านพรมแดนคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานจากผู้ว่าฯ สระแก้ว ว่า ปัญหาในพื้นที่ผู้ค้าขายส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาทั้งหมดกว่าหมื่นคน ซึ่งขณะนี้มีการผ่อนปรนให้ผู้ค้าสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ จึงสั่งการให้ผู้ว่าฯ ช่วยรวบรวมผู้ประกอบการทั้งหมดเพื่อที่จะเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว
ขณะที่ผู้การจังหวัดระบุว่า เมื่อวานนี้จากการพูดคุยได้มีการประสานงานกับทางกัมพูชา เนื่องจากชาวกัมพูชาต้องการเดินทางกลับประเทศ ซึ่งมีการผ่อนปรนให้คนกัมพูชาผ่านด่านได้ในเวลา 19.00-20.30 น.
นายกรัฐมนตรีหันไปพูดคุยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่สามารถเริ่มปรับตัวได้ แต่กลับเป็นผู้ประกอบการมากกว่าที่ยังได้รับผลกระทบ ซึ่งในพื้นที่เองกำลังรับนโยบายเพื่อไปปรับ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังพูดคุยกับผู้ประกอบการสินค้า OTOP บริเวณด่านชายแดน ซึ่งผู้ประกอบการเสนอปัญหากับนายกรัฐมนตรีว่า เรื่องของสินค้า OTOP ที่เคยส่งออกกับทางกัมพูชา ขณะนี้ไม่สามารถส่งออกได้เพราะติดเรื่องการจำกัดเวลาเข้า-ออกด่าน ขณะเดียวกันก็ยังมีสินค้าเกษตรที่อาจจะเน่าเสียด้วย
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแรงงานที่ส่วนใหญ่ใช้แรงงานกัมพูชา เพราะอีกไม่นานก็จะถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เช่น ลำไย ที่กำลังออก รวมถึงอ้อยและข้าว จึงอยากให้นายกฯ ช่วยเรื่องแรงงานจาก สปป.ลาว หรือเมียนมา มาทดแทนแรงงานกัมพูชาได้หรือไม่ ซึ่งนายกฯ ได้รับเรื่อง
ทั้งนี้ บรรยากาศที่บริเวณด่านคลองลึก มีประชาชนมารอมอบดอกไม้และถือป้ายให้กำลังใจ โดยมีข้อความระบุว่า คนสระแก้วรักนายกอุ๊งอิ๊ง ชาวสระแก้วเป็นกำลังใจให้ท่านนายกฯ แพทองธาร
ขณะเดียวกันก็มีประชาชนบางส่วนมายืนถือป้ายบริเวณด้านหน้าทางเข้าด่าน เรียกร้องให้มีการผ่อนปรนเปิดด่านเพื่อทำการค้าขาย เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ที่ตลาดโรงเกลือหรือบริเวณชายแดนด่านคลองลึกที่ค้าขายกับชาวกัมพูชาไม่สามารถขายของได้
ชาวบ้านยังบอกอีกว่า เข้าใจในเรื่องของความมั่นคง แต่กรณีข้อพิพาทเขาพระวิหารก็ยังไม่มีการสั่งปิดด่าน ครั้งนี้ถือว่าหนักมาก ตอนนี้ประชาชนลำบาก ขอให้มีการผ่อนปรนเปิดด่านให้มีการนำรถที่มีสินค้าเข้ามา พร้อมทิ้งท้ายว่า ผู้ประกอบการที่อยู่ตรงอรัญประเทศจะตายกันหมด
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยังบริเวณบ้านดงงู ตำบลอรัญประเทศ เพื่อพบปะพูดคุยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพราน 1202 ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ พร้อมกล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจทุกคนที่นี่ ทราบว่างานประจำที่นี่ห่างไกลจากครอบครัว ขอบคุณที่เสียสละ ทุ่มเทแรงกายแรงใจ รู้ว่าทหารเป็นตัวแทนของชาติที่ปกป้องให้เกิดสันติภาพ ทุกท่านต้องใช้ความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุในการรักษาความสงบ ต้องขอขอบคุณจากใจ พร้อมนำคำขอบคุณจากพี่น้องประชาชนมาให้ทุกท่าน ขอให้มีความราบรื่นในการทำงาน ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเพิ่มเติม ขอให้บอกเพื่อที่จะดูแลซึ่งกันและกัน พร้อมย้ำว่าไม่ลืมความเป็นอยู่และสวัสดิการทหารแนวหน้า
ต่อมานายกรัฐมนตรีและคณะ พบปะและมอบสิ่งของกับนักเรียนและครูที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ และเยี่ยมชมหลุมหลบภัย ซึ่งตั้งห่างจากชายแดน 4 กิโลเมตร
โดยก่อนเข้าค่ายสุรสิงหนาท นายกรัฐมนตรีแวะทักทายแม่ค้า พร้อมถามว่าขายดีหรือไม่ โดยแม่ค้าบอกว่า ปกติแล้วขายดีแต่ช่วงนี้เงียบ นายกรัฐมนตรีจึงเหมาไก่ย่างและไก่ทอดพร้อมกับข้าวเหนียว เพื่อนำไปฝากให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ขณะเดียวกันแม่ค้ายังขอบคุณนายกฯ ที่แจกเงิน 10,000 บาท ทำให้มีเงินไปต่อยอด
จากนั้นนายกรัฐมนตรีนำไก่ย่างและข้าวเหนียวมามอบให้เจ้าหน้าที่ที่ร่วมกันปฏิบัติงาน ก่อนจะกล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาจังหวัดสระแก้ว ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง สำหรับปัญหาชายแดนหรือปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ตนและรัฐบาลเป็นห่วงอย่างมากเมื่อมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบกับปัญหาชายแดน ก็เป็นห่วงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน
วันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนโดยตรง ทำให้ทราบว่ามีตรงไหนที่รัฐบาลจะสามารถช่วยเพิ่มเติมและสนับสนุนประชาชนได้อีก ต้องขอขอบคุณกำลังสำคัญที่อยู่ตรงนี้ ที่ให้ความร่วมมือทำงานอย่างบูรณาการ ปกป้องดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตนเองให้อยู่เย็นเป็นสุขและปลอดภัย
ตนอยากให้กำลังใจคนในพื้นที่ แต่กลายเป็นว่าคนในพื้นที่ให้กำลังใจตนเอง จึงอยากขอบคุณทุกคนอย่างจริงใจ ตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ถ้าอยากได้หรืออยากให้สนับสนุนก็สามารถบอกได้ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัด ยืนยันจะสนับสนุนอย่างเต็มที่ และขอให้กำลังใจทุกคน
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกรัฐมนตรีจึงเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร