วันนี้ (19 มิถุนายน) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ เวลา 16.37 น. พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าที่ทำการพรรคเรียก 7 กรรมการบริหารพรรคอีก 7 คน ดังนี้
- ปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เหรัญญิกพรรค
- เกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนสมาชิกพรรค
- วิทยา แก้วภราดัย กรรมการบริหารพรรค
- ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง กรรมการบริหารพรรค
- ชื่นชอบ คงอุดม กรรมการบริหารพรรค
- วิสุทธิ์ ธรรมเพชร กรรมการบริหารพรรค
- เกชา ศักดิ์สมบูรณ์ กรรมการบริหารพรรค
ทั้งนี้ เพื่อประชุมหารือถึงทิศทางของพรรคเกี่ยวกับการร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหลังเกิดกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง นายกรัฐมนตรีไทย กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และกองทัพไทย
ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมา สส. และกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ ต่างทยอยเดินทางเข้าที่ทำการพรรคอย่างต่อเนื่อง เช่น จุติ ไกรกฤษ์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส. ระบบบัญชีรายชื่อ, ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ สส. แบบบัญชีรายชื่อ, ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส. ระบบบัญชีรายชื่อ, ปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ กรรมการบริหารพรรค, อัครเดช วงษ์พิทักษ์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรค และวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และกรรมการบริหารพรรค
ในขณะที่กรรมการบริหารพรรคที่อยู่ฝ่ายกลุ่ม 18 ของ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ไม่ได้ถูกเรียกให้เข้าร่วมการประชุมด้วย
ก่อนหน้านี้เพจพรรครวมไทยสร้างชาติ United Thai Nation Party โพสต์ข้อความระบุว่า พรรครวมไทยสร้างชาติขอยืนยันจุดยืนในการธำรงและพิทักษ์อำนาจอธิปไตย เกียรติภูมิ และผลประโยชน์ของชาติและประชาชน เหนือสิ่งอื่นใด
เอกนัฏให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนประชุมว่า การประชุมในวันนี้มีเพียง กก.บห. เท่านั้นที่เข้าร่วม และมี สส. บางคน โดยไม่ได้เชิญมาทุกคน รวมถึงไม่ได้มีเจตนาที่จะไม่เชิญ สส. กลุ่ม 18 ของ สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำกลุ่ม 18 แต่อย่างใด
ส่วนแนวโน้มและจุดยืนของพรรครวมไทยสร้างชาติจะเหมือนกับพรรคร่วมอื่นหรือไม่นั้น จะต้องมีการพูดคุยกันก่อน หลายคนการแสดงความห่วงใยมา โดยที่ตนเองไม่ได้มีการแสดงความคิดเห็นใดๆ ขอฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายก่อน สิ่งที่เป็นส่วนสำคัญของพรรคและได้รับความคิดเห็นมาจำนวนมาก ก็ต้องมีการพูดคุยในวันนี้เช่นกัน
เอกนัฏกล่าวต่อว่า การประชุม กก.บห. พรรคในวันนี้ไม่มีการแบ่งซีกแบ่งฝ่าย วันนี้ไม่ใช่เรื่องของตนกับสุชาติแล้ว แต่เรื่องที่เราพูดคุยอยู่นั้นเป็นเรื่องสำคัญของประเทศชาติ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หาก สส. คนไหนไม่ยอมรับมติของพรรค เอกนัฏกล่าวว่า คนที่เป็นสมาชิกพรรคต้องยอมรับมติของพรรค หากใครที่มีอุดมการณ์ไม่ตรงกับพรรคก็สามารถลาออกได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มติการตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องดูปัจจัยอื่นของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ เอกนัฏกล่าวว่า ไม่ต้องดูใคร การตัดสินใจในครั้งนี้ เป็นการตัดสินใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนได้รับเลือกจากสมาชิกพรรคและทำหน้าที่แทนสมาชิก ไม่เกี่ยวกับพรรคเลย พร้อมยืนยันว่าไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ของพรรค เกี่ยวกับคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี
ส่วนท่าทีการแถลงข่าวของนายกรัฐมนตรีนั้นต้องไปพูดคุยกันในห้องประชุมอีกที เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งโดยรวมต้องประณามการกระทำของกัมพูชา เกียรติภูมิและศักดิ์ศรีคือสิ่งสำคัญที่สุดของประเทศไทย ซึ่งพรรคยึดหลักนี้เป็นเรื่องสำคัญ และไม่มีอะไรที่สำคัญไปมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีของตนเองก็ไม่สำคัญ ถึงแม้จะร่วมรัฐบาลต่อและได้เก้าอี้รัฐมนตรีเพิ่ม ตนก็ไม่เอา เราไม่ได้สนใจ ไม่ใช่เรื่องตำแหน่งที่ไม่ลงตัว ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เลย
“ผมจะอยู่หรือไปไม่สำคัญ แต่นี่คือจุดยืนของพรรคที่จะตัดสินใจ ไม่เกี่ยวว่าจะได้ตำแหน่งอะไร”
ส่วนจุดยืนดังกล่าวจะเป็นที่ถูกใจของประชาชนหรือไม่ เอกนัฏ กล่าวว่า ต้องคิดว่าการดำรงอยู่ของพรรคอยู่ได้ด้วยแรงสนับสนุน และแรงศรัทธาของประชาชนที่ให้กับพรรค
จากนั้น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เดินเข้ามาในพรรคและไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงจุดยืนของพรรคต่อกรณีคลิปเสียงดังกล่าว แต่พีระพันธุ์ไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด