วันนี้ (19 มิถุนายน) ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส. แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย สส. พรรคประชาชน แถลงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา สืบเนื่องจากสถานการณ์การเมือง ที่มีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีสนทนากับสมเด็จ ฮุน เซน ตามด้วยการถอนตัวจากรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทย
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นความชอบธรรมสุดท้าย ที่แพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรี ได้ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อการบริหารราชการแผ่นดินหมดสิ้นแล้ว” ณัฐพงษ์กล่าว
ณัฐพงษ์ระบุว่า ดังนั้น ทางออกเดียวที่เราจะได้รัฐบาลที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ รัฐบาลที่มีความชอบธรรม เป็นรัฐบาลที่มาตามระบบกลไกของระบอบประชาธิปไตย แม้อารมณ์ของสังคมที่เกิดขึ้นในวันนี้ อาจจะมีการจัดตั้งม็อบเรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาลหรือที่ต่างๆ แต่สิ่งที่อยากให้ทุกคนช่วยกัน คือการปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ใช่ทางออกแน่นอน อย่าให้อารมณ์สังคมเลยเถิดไป
“ดังนั้น ด้วยบริบทสถานการณ์ทั้งหมดที่เป็นอยู่ จุดยืนของผมและพรรคประชาชน คือการร้องเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในการยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ รวมถึงการส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน ที่อาจจะยังไม่ได้ออกมาประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล” ณัฐพงษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยุบสภาในเวลานี้ จะเข้าทางกัมพูชาหรือไม่ เพราะไทยอาจเสียเปรียบในกรณีข้อพิพาทชายแดน ณัฐพงษ์ระบุว่า กลไกตามรัฐธรรมนูญปัจจุบัน รัฐบาลรักษาการมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินระดับหนึ่ง อาจจะมีเพียงเงื่อนไขบางอย่าง เช่น ไม่สามารถตั้งงบประมาณผูกพันไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดหน้าได้ ดังนั้น ถึงแม้จะมีการยุบสภาแล้ว แต่รัฐบาลรักษาการ ก็ยังสามารถใช้กลไกในระบบราชการปัจจุบัน แก้ไขปัญหาระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นได้อยู่ ไม่ใช่ว่าการยุบสภาจะทำให้การเกิดสุญญากาศแต่อย่างใด สิ่งที่ทำให้เกิดสุญญากาศคือการขาดความเชื่อมั่นของประชาชน และภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าหากยุบสภาไปแล้ว จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับปี 2557 ที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ ณัฐพงษ์กล่าวว่า บริบทในตอนนี้กับตอนนั้นต่างกัน สำหรับพรรคประชาชนในตอนนี้ เราไม่มีทางที่จะคัดค้านการเลือกตั้งแน่นอน ถ้าเมื่อไรก็ตามที่มีการประกาศยุบสภามา เราคงไม่ได้เห็นการแสดงออกของพรรคประชาชนแน่นอน ยืนยันจะเดินหน้ามุ่งสู่การเลือกตั้งนำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด และเดินหน้ากระบวนการในการตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรมสูงให้เกิดขึ้นโดยเร็วมากกว่า