วันนี้ (27 พฤษภาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงอนาคตทางการเมืองว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ จะนัดกลุ่มของตนกินข้าวเพื่อหารือกัน ทั้งนี้ สื่อหลายสำนักอาจจะมองว่าตนมีเพื่อน 5-6 คน ตนบอกไม่ได้ว่าใครบ้าง แต่ยืนยันว่ามีมากกว่านั้นแน่นอน และสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง
“ผมเป็นคนรักใครรักจริง มีเพื่อนที่อุดมการณ์ทางการเมืองคล้ายกัน” สุชาติกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มของสุชาติมีทั้งหมดกี่คน สุชาติกล่าวว่า พูดไปก็ไม่อยากให้คนที่ฟังมองว่าตนพุ่งเป้าแต่การเมือง แต่การเมืองต้องเดินคู่กับการทำงาน จึงต้องรวบรวมคนที่เราเคยชวนมา เพราะถ้าชวนมาแล้วไม่พูดคุยกันเลยแล้วใครจะคบกับเรา
เมื่อถามต่อว่าความชัดเจนทางการเมืองของกลุ่มสุชาติจะชัดเจนเมื่อไร สุชาติกล่าวว่า เราพูดคุยปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ขณะนี้รัฐบาลผ่านมาครึ่งเทอมแล้วก็ต้องมีการพูดคุย โดยความชัดเจนจะเกิดขึ้นตามสถานการณ์ ตอนนี้ตนยังพูดไม่ได้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงความชัดเจนที่จะไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่ สุชาติกล่าวว่า โดยมารยาทตอนนี้เรายังอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เราต้องเคารพผู้ใหญ่ในพรรค เพราะเราอาศัยเขาอยู่ ในทางการเมืองก็มีทั้งคนออกไปและคนเข้ามาเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกคนที่ไปไม่ได้ทะเลาะกัน เป็นเพราะอุดมการณ์และความต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่ามีสัญญาณอะไรทำให้คิดเรื่องการขยับขยายจึงทำให้คิดเรื่องการขยับขยายออกจากพรรค รทสช. สุชาติกล่าวว่า “ไม่มีหรอกครับ เราเป็น สส. ที่ลงเลือกตั้งก็ต้องแอ็กชันตลอดเวลา จะมัวแต่นิ่งเฉย ไม่มองการเปลี่ยนแปลงไม่ได้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พรรคต้นสังกัดเดิมเข้าใจเหตุผลใช่หรือไม่ สุชาติกล่าวว่า ตนให้เกียรติผู้ใหญ่ในพรรค เขาก็ต้องเข้าใจ ตอนปี 2566 เราเป็นแม่น้ำแต่ละสายมารวมกัน วันนี้จะหายไปสายหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา เขาก็ต้องเข้าใจ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ยังหาโอกาสใหม่อยู่ใช่หรือไม่ สุชาติกล่าวว่า “ก็โอกาสใหม่ๆ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะไปพรรคกล้าธรรมใช่หรือไม่ สุชาติกล่าวว่า ไม่ เพราะกับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เป็นพี่ แต่เราไม่ได้คุยเรื่องนี้กัน และเราไม่ได้คิดจะไปอยู่ตรงนั้น แต่ตนไม่สามารถตัดสินใจได้คนเดียว เพราะมีเพื่อนอยู่อีกประมาณ 20 จังหวัด ก็ต้องพูดคุยกันหาโอกาสใหม่ๆ อะไรดีๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า เพราะการเมืองย้ายพรรค เพราะเตรียมพร้อมหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง สุชาติกล่าวว่า ไม่ รัฐธรรมนูญกำหนดอยู่แล้ว สมัยก่อนถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองก็ปรับเปลี่ยนกันทัน แต่ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไร เราทำงานให้นายกรัฐมนตรีอย่างเข้มแข็ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า โอกาสใหม่ในอนาคตต้องสดใสใช่หรือไม่ สุชาติหัวเราะก่อนกล่าวว่า “ต้องสดใส”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่า บ้านหลังใหม่ที่เป็นโอกาสใหม่สร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วหรือไม่ สุชาติกล่าวว่า “อาจจะต้องไปแต่งเติมคิ้วให้ดูดี แต่งหน้า ทาปากอีกนิด ส่วนพร้อมกี่เปอร์เซ็นต์แล้วรอตกผลึกอีกนิดกำลังคุยอยู่หลายคน ถ้ามีอะไรดีๆ เดี๋ยวผมจะมาบอก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์ของสุชาตินั้น อิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะสมาชิกพรรคกล้าธรรม (กธ.) ยืนร่วมรับฟังการสัมภาษณ์อยู่ข้างหลังด้วย และภายหลังจากสุชาติให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น สุชาติและอิทธิเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปพูดคุยกัน 2 คน