วันนี้ (16 พฤษภาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเยอรมนีปฏิเสธขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำให้ไทยว่า ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยอรมนี เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ทำจดหมายมาสอบถาม ก็อยากได้รับคำตอบ ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยอรมนียืนยันว่าเป็นเรื่องยากและลำบากที่จะขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำ เนื่องจากประเทศเยอรมนีเป็นสมาชิก NATO ซึ่งมีปัญหาอยู่กับประเทศจีน และมีข้อตกลงชัดเจนว่าห้ามส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม ตนก็ได้ขอบคุณทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยอรมนีที่ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนและเราก็จะได้กลับไปพิจารณา เพราะเรื่องเรือดำน้ำขาดเครื่องยนต์ เป็นปัญหาที่ค้างอยู่ ซึ่งขณะนี้ทางเยอรมนีได้ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรส่งมาให้ และหากได้รับหนังสือแล้วก็จะมาหาทางออก
ส่วนแนวโน้มการเดินหน้าเรือดำน้ำต่อนั้นภูมิธรรมกล่าวว่า ก็ต้องหาทางออกที่ดีเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่จะเดินต่อแบบเดิมคงไม่ได้ จึงต้องมาพิจารณาในตัวของสัญญารวมถึงความคุ้มค่า เพราะปัจจุบันเราจ่ายไปแล้ว 70-80% หากไม่เอาเรือดำน้ำ เราก็จะสูญเสียไปหมดโดยไม่ได้อะไรคืนมา แต่ถ้าเดินหน้าต่อจะคุ้มหรือไม่ กำลังรอคำตอบในเรื่องนี้
ขณะเดียวกันได้มีการพูดคุยเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเขาเคารพการตัดสินใจของเรา แต่เขาก็ไม่ได้พูดว่ามีปัญหาหรือไม่ ตนก็บอกเขาไปว่าเรื่องนี้เราก็ยากลำบาก เพราะเป็นรัฐบาลที่เข้ามาทีหลัง
ภูมิธรรมยังปฏิเสธกระแสข่าวว่า หากไทยยกเลิกตัวเรือดำน้ำที่ใช้งบประมาณกว่า 7,000 ล้านบาท ซึ่งต่อไปแล้ว 80% จะยกให้กัมพูชา ว่า ยังไม่ได้ยินเรื่องนี้ และทางจีนก็ไม่ได้พูดกับตนแบบนี้ เพียงแต่เขาอยากให้เราพิจารณา
“เขาจี้มาหลายครั้งแล้ว ผมก็ตอบไปว่าก็อยากให้คำตอบ แต่ติดเงื่อนไขที่เราต้องหาทางออกรอบคอบที่สุดว่ามีทางเลือกอะไรบ้าง ส่วนที่มีข่าวหนาหูหากไทยยกเลิกจีนจะนำตัวเรือดำน้ำที่เราจ่ายเงินไปแล้วเกินครึ่งยกให้กัมพูชา ประเด็นนี้เถียงกันก็เป็นเรื่องยาก หากเราจะจัดการเราก็ต้องระวัง เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ต้องถ่วงดุลความสัมพันธ์ ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งไทยเป็นเพียงประเทศเล็ก” ภูมิธรรมกล่าว