วันนี้ (28 เมษายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าภารกิจค้นหาผู้ประสบภัยและรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เขตจตุจักร ว่า ทีมค้นหายังคงปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง แม้เครื่องจักรหนักจะหยุดการทำงานชั่วคราว แต่ทีมภาคสนามยังคงค้นหาและพบเพียงเศษชิ้นส่วน
โดยในช่วงบ่าย เครื่องจักรหนักจะกลับมาดำเนินการต่อ หลังจากเมื่อคืนได้ทำการตัดและม้วนเหล็กจำนวนมาก เพื่อให้รถแบคโฮสามารถเคลื่อนย้ายเศษวัสดุได้สะดวกยิ่งขึ้น ขณะที่รถเครนขนาดใหญ่ 600 ตัน ได้ถูกนำออกจากพื้นที่แล้ว เนื่องจากความสูงของเศษวัสดุลดลงมาก กทม. ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามเป้าหมายให้พื้นที่ราบเรียบมากที่สุดภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนจะดำเนินการในส่วนของชั้นใต้ดินต่อไป
สุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) รายงานว่า ความสูงเฉลี่ยของเศษวัสดุขณะนี้อยู่ที่ 1.37 เมตร และเริ่มเห็นผนังของชั้นใต้ดินบริเวณด้านหน้าแล้ว สำหรับแผนการดำเนินงานวันนี้ จะมุ่งเน้นไปที่โซน D ด้านหลังที่ติดกับอาคารจอดรถ โดยจะเร่งเคลื่อนย้ายปูนและเหล็กออก เพื่อปรับระดับให้เท่ากับด้านหน้า คาดการณ์ว่าจะสามารถลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ชั้นใต้ดินได้ในเร็ววัน
สำหรับกรณีการพบร่างผู้เสียชีวิต 1 รายในโซน D เมื่อวานนี้ (27 เมษายน) ขณะนี้อยู่ระหว่างการยืนยันอัตลักษณ์บุคคลโดยนิติเวช เพื่อให้ญาติสามารถรับร่างไปบำเพ็ญกุศลได้ ในส่วนของการขนย้ายเศษวัสดุ มีปริมาณเฉลี่ยวันละ 300 เที่ยว โดยเมื่อวานขนย้ายได้ 343 เที่ยว และวันก่อนหน้า 333 เที่ยว รวมแล้วประมาณ 10 ตัน ซึ่งในช่วงแรกของการปฏิบัติงาน ปริมาณการขนย้ายจะน้อยกว่านี้ เนื่องจากเน้นการค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นหลัก แต่หลังจากนั้นจึงเร่งขนย้ายเพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิตให้รวดเร็วขึ้น
สุริยชัยกล่าวว่า ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ทีมงานเผชิญกับปัญหาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง แต่มีการประชุมปรับแผนทุกวัน เนื่องจากสภาพหน้างานในแต่ละพื้นที่และแต่ละชั้นแตกต่างกัน มีการปรับเปลี่ยนวิธีการจากใช้กำลังคนและเครื่องมือขนาดเล็ก มาเป็นการเพิ่มการใช้เครื่องจักรหนัก และปรับประเภทเครื่องจักรให้เหมาะสมกับความสูงของเศษวัสดุที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมทั้งขอบคุณทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามาสนับสนุนการทำงาน ทำให้การดำเนินการเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว