อีกเพียง 2 เดือนเศษ ศึก FIFA Club World Cup 2025 ที่ถูกยกระดับเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่แบบฟุตบอลโลกซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี กำลังจะเปิดฉากขึ้นที่สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 13 กรกฎาคมนี้
ด้วยเงินรางวัลรวมสูงถึง 775 ล้านปอนด์ (ประมาณ 34,000 ล้านบาท) ทำให้รายการนี้กลายเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ระดับสโมสรที่มีเงินรางวัลสูงที่สุดในโลก โดยทีมแชมป์อาจกวาดรายได้สูงสุดถึง 97 ล้านปอนด์ (ราว 4,249 ล้านบาท) หากสามารถชนะทุกนัดตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบชิงชนะเลิศ
อย่างไรก็ตาม เงินรางวัลรวมของทัวร์นาเมนต์อยู่ที่ 775 ล้านปอนด์ จะแบ่งเป็น 407 ล้านปอนด์สำหรับทีมเข้าร่วมการแข่งขัน และอีก 368 ล้านปอนด์ที่จะมอบให้ตามผลงานของแต่ละทีม ซึ่งเงินรางวัลที่แต่ละทีมจะได้รับตามรอบการแข่งขันมีรายละเอียดดังนี้
⚽ โครงสร้างเงินรางวัล FIFA Club World Cup 2025
- เข้าร่วมการแข่งขัน: สโมสรยุโรปที่มีอันดับสูงสุดในเกณฑ์ของ FIFA จะได้รับ 29.6 ล้านปอนด์ เพียงแค่เข้าร่วม
- ชนะรอบแบ่งกลุ่ม: 1.5 ล้านปอนด์ต่อแมตช์
- เข้ารอบ 16 ทีม: 5.8 ล้านปอนด์
- เข้ารอบ 8 ทีม (รอบก่อนรองชนะเลิศ): 10.2 ล้านปอนด์
- เข้ารอบรองชนะเลิศ: 16.3 ล้านปอนด์
- ชนะเลิศ: 31 ล้านปอนด์ (โดยทีมที่ชนะเลิศอาจได้เงินรางวัลสูงสุดถึง 97 ล้านปอนด์หากชนะทุกเกมตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจนถึงรอบชิงชนะเลิศ)
สโมสรยุโรปกวาดเงินรางวัลมหาศาล แต่ทีมจากทวีปอื่นเผชิญความเหลื่อมล้ำ?
จากรายงานของ BBC Sport เปิดเผยว่า สโมสรชั้นนำจากยุโรป เช่น เรอัล มาดริด, บาเยิร์น มิวนิก, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเชลซี มีโอกาสรับเงินรางวัลมหาศาล โดยหากผ่านรอบแบ่งกลุ่มจะได้รับอย่างน้อย 40 ล้านปอนด์
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกสโมสรจะได้เงินรางวัลเท่าเทียมกัน เพราะสโมสรจากยุโรปที่มีขนาดเล็กกว่า เช่น อาร์บี ซัลเบิร์ก หรือทีมจากอเมริกาใต้อย่างโบคา จูเนียร์ส และฟลาเมงโก จะได้รับเพียง 15 ล้านปอนด์หากผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เช่นเดียวกับทีมจากเอเชีย แอฟริกา และโซนโอเชียเนีย จะได้รับเงินรางวัลต่ำกว่ามาก
แล้วทำไมบิ๊กทีมยุโรปถึงได้เงินรางวัลมากกว่า
จากปัญหาความเหลื่อมล้ำในโครงสร้างเงินรางวัลระหว่างทีมใหญ่และทีมเล็กในการแข่งขัน FIFA Club World Cup 2025 มีสาเหตุสำคัญมาจากระบบจัดสรรเงินรางวัลของ FIFA ซึ่งพิจารณาจากมูลค่าทางการตลาดและค่าความนิยม ส่งผลให้สโมสรจากยุโรปที่มีฐานแฟนบอลระดับโลกและดึงดูดสปอนเซอร์ได้มากกว่าได้รับเงินรางวัลสูงกว่าทีมจากทวีปอื่น
นอกจากนี้อิทธิพลของฟุตบอลยุโรปบนเวทีโลกก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ หากพิจารณาโควตาทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน FIFA ได้จัดสรรให้สโมสรยุโรปถึง 12 ทีม ขณะที่ทวีปอื่นมีเพียง 4-6 ทีม ทำให้โอกาสในการคว้าเงินรางวัลของสโมสรยุโรปมีมากกว่า
ขณะเดียวกันเรื่องของความต่างตัวเงินรางวัลและโควตาทีมเข้าร่วมยังสะท้อนถึงความสำเร็จในสนามของสโมสรยุโรปที่ครองความสำเร็จในศึกชิงแชมป์สโมสรโลกมา 11 ปีติดต่อกัน ส่งผลให้พวกเขามีอำนาจต่อรองที่สูงขึ้น พร้อมกับรายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดและสปอนเซอร์ที่เหนือกว่าสโมสรจากทวีปอื่น
อย่างไรก็ตาม แม้โครงสร้างเงินรางวัลของ FIFA Club World Cup 2025 จะสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำระหว่างทีมจากยุโรปและทวีปอื่นๆ แต่ในอีกมุมหนึ่ง FIFA ก็พยายามกระจายรายได้ให้กับทุกทีมที่เข้าร่วมผ่านเงินรางวัลและโครงการลงทุน เพื่อพัฒนาสโมสรฟุตบอลทั่วโลก
หากมองในมุมบวก นี่อาจเป็นโอกาสสำคัญที่ทีมจากทวีปอื่นจะได้แสดงศักยภาพและสร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับโลก พร้อมทั้งลดช่องว่างระหว่างฟุตบอลยุโรปกับภูมิภาคอื่นๆ ในอนาคต?
อ้างอิง:
