หุ้น Tesla Inc. กำลังอยู่ในช่วงขาลง ยอดขายทั่วโลกดิ่งลงอย่างรุนแรง อีกทั้งแม้แต่นักวิเคราะห์ที่เคยเชียร์สุดใจยังเริ่มหันมามีมุมมองที่ระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม กลับมีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลัง ‘กว้านซื้อ’ หุ้นของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน พวกเขาคือบรรดา ‘แฟนคลับ’ ของ Elon Musk ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทนั่นเอง!
บริษัทมีฐานแฟนคลับนักลงทุนรายย่อยที่ติดตามทุกคำพูดของ Musk บน X พวกเขาวิเคราะห์ Tesla อย่างละเอียดในฟอรัมออนไลน์ และมีส่วนในการสร้างกระแสนิยมให้กับหุ้น ข้อมูลจาก JPMorgan Chase แสดงว่านักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิหุ้น Tesla ต่อเนื่องกัน 13 วัน ทุ่มเงินกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นกระแสเงินไหลเข้ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015
สิ่งที่น่าสนใจคือในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ราคาหุ้น Tesla กลับร่วงลง 17% ทำให้มูลค่าตลาดหายไปกว่า 155,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ในภาวะตลาดที่ผันผวน นักเทรดใน Reddit หลายคนยังมองว่านี่เป็นโอกาสดีในการลงทุน Nicholas Colas ผู้ร่วมก่อตั้ง DataTrek Research กล่าวว่า “Tesla ทำให้นักลงทุนหลายคนร่ำรวยขึ้นอย่างมาก ผู้คนไม่ลืมสิ่งนั้นและจะกลับมาหาหุ้นอีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามันถูกทุบลง”
หุ้น Tesla ร่วงลงอย่างหนักตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม หลังจากที่เคยทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากความปีติยินดีในชัยชนะของ Donald Trump ราคาหุ้นได้ถอยลงมากกว่า 50% จากจุดสูงสุดดังกล่าว ทำให้เป็นหุ้นที่ร่วงมากที่สุดอันดับสองในดัชนี S&P 500 ในปีนี้
สถานการณ์รุนแรงถึงขนาดที่ Musk ต้องปลอบใจพนักงานในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี (20 มี.ค.) ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุให้ราคาหุ้นฟื้นตัวขึ้น 5.3% มาปิดที่ 248.66 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ (21 มี.ค.)
สิ่งที่ Wall Street มองว่าเป็นคุณต่อบริษัท คือบทบาทของ Musk ในรัฐบาล Trump กลับกลายเป็นภาระ เนื่องจากการปรากฏตัวทางการเมืองและข้อโต้แย้งในยุโรปได้จุดชนวนการต่อต้านบริษัท ส่งผลให้รถ Tesla ถูกมองเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง มีการประท้วงและทำลายโชว์รูมและสถานีชาร์จในหลายประเทศ
ยอดขายรถยนต์ Tesla ร่วงลงในตลาดสำคัญทั้งยุโรป จีน และออสเตรเลีย ส่งผลให้นักวิเคราะห์ปรับลดประมาณการยอดขายและกำไร Adam Jonas นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley ซึ่งเป็นผู้สนับสนุน Tesla มานาน ได้ลดเป้าหมายราคาหุ้น โดยอ้างถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เก่า และความรู้สึกเชิงลบต่อแบรนด์ แต่ยังคงแนะนำ ‘ซื้อ’ โดยมองว่าอนาคตของบริษัทยังขึ้นอยู่กับหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์
ในการประชุมกับพนักงาน Musk พยายามสร้างความมั่นใจโดยให้ ‘ถือหุ้นไว้’ เขากล่าวถึงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับยานยนต์ไร้คนขับและมองว่าอนาคตของแท็กซี่หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์จะช่วยสร้างโลกที่ผู้คนสามารถมีทุกสิ่งที่ต้องการได้
ยอดขายรถยนต์ใหม่ของ Tesla ลดลงในหลายภูมิภาค ขณะที่บริษัทเผชิญความไม่แน่นอนทางการค้าจากนโยบายภาษีใหม่ของประธานาธิบดี Trump เจ้าของ Tesla จำนวนมากกำลังนำรถของตนไปแลกเปลี่ยนเป็นรถยี่ห้ออื่นในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์
Musk ยังคงโปรโมท Model Y ว่าจะเป็นรถที่ขายดีที่สุดในโลกอีกครั้ง และอวดว่า Cybertruck เป็นรถกระบะไฟฟ้าล้วนที่ขายดีที่สุด แม้จะมีการประกาศเรียกคืนครั้งใหญ่ เขายังกล่าวถึง Cybercab ที่กำลังจะมาถึงและการอัปเกรดรถให้เป็นแท็กซี่หุ่นยนต์ด้วยการอัปเดตซอฟต์แวร์ โดยบริการเรียกรถไร้คนขับจะเริ่มที่ออสตินในเดือนมิถุนายน
ในตลาดแท็กซี่หุ่นยนต์และหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ Tesla เผชิญการแข่งขันรุนแรงจาก Waymo ของ Alphabet และผู้ผลิตจีนอย่าง Zeekr รวมถึงบริษัทหุ่นยนต์อย่าง Boston Dynamics
ถึงกระนั้น Musk ยังอวดว่า Optimus ของ Tesla เป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ซับซ้อนที่สุดในโลก โดยพนักงาน Tesla จะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ใช้งาน เขากล่าวว่าวันหนึ่งหุ่นยนต์เหล่านี้จะทำงานเหมือนตัวละคร R2-D2 และ C-3PO ใน Star Wars
“เราจะเสนอหุ่นยนต์ Optimus ให้กับพนักงาน Tesla ก่อน” Musk กล่าว “อาจมีข้อดีและข้อเสียบ้าง อาจมีข้อผิดพลาดเล็กน้อย แต่มันจะ ‘เจ๋ง’ มาก”
อ้างอิง: