วันนี้ (17 มีนาคม) คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย รวม 12 คน ที่มี เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ ร่วมกันประชุมครั้งที่ 3 เพื่อคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ. ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องขังคดีคลุมถุงดำผู้ต้องหายาเสพติดระหว่างสอบสวนเมื่อปี 2564 และข้อร้องเรียนกรณีถูกเจ้าหน้าที่คุมขังทำร้ายร่างกายกลั่นแกล้ง ในแดน 7 เรือนจำกลางคลองเปรม ที่เป็นไปตามกฎหมาย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ
ธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า ในที่ประชุมได้มีมติให้ชะลอการพิจารณาการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ เนื่องจากต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพ จากสถาบันนิติเวช ทั้ง 2 สถาบัน ที่ขณะนี้ผลยังไม่เป็นที่สิ้นสุด รวมถึงรอผลการตรวจวัตถุพยานและหลักฐานต่างๆ จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำมาประกอบการพิจารณา
ส่วนกรณีการร้องเรียนว่าอดีตผู้กำกับโจ้ถูกเจ้าหน้าที่คุมขังทำร้ายร่างกายกลั่นแกล้ง ในแดน7 เรือนจำกลางคลองเปรม คณะอนุกรรมการกลั่นกรองฯ ได้ สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว 10 ปาก จึงได้มอบหมายให้ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล(สน.)ประชาชื่น ดำเนินการสอบสวน ร่วมกับพนักงานอัยการ ว่าจะเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่และหากผิดจะเข้าข่ายความผิดมาตราใด
ด้าน พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผู้กำกับการ สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า จากการสอบสวนแม่ น้องสาว แฟนสาว และเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ มีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเข้าข่ายความผิด ตามพ.ร.บ.อุ้มหายฯ ซึ่งขณะนี้ พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอให้ส่งพนักงานอัยการมาเข้าร่วมกันสอบสวน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องทำการสอบปากคำเพื่อนนักโทษ ในแดน 7 จำนวน3-4 คน รวมถึงเพื่อนนักโทษแดน5 เพิ่มเติม และเรียก สิทธิพร แก้วคำบัง (คู่กรณีตามคำร้องเรียนของแม่ อดีตผู้กำกับโจ้) เจ้าหน้าที่คุมขังเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม
สำหรับที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ฯ ได้รับการร้องเรียนปมการเสียชีวิตในเรือนจำและสถานที่ควบคุมตัว ที่หน่วยงานรัฐมีอำนาจ ตั้งแต่ปี2566 จนถึงปัจจุบัน มีกว่า 100 คดี ซึ่งจะต้องนำมากลั่นกรองข้อมูลว่าจะเข้าข่ายพ.ร.บ.อุ้มหายฯหรือไม่