วันนี้ (12 มีนาคม) ที่อาคารรัฐสภา กมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส. นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมวาระพิจารณาติดตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินการส่งตัวผู้ถูกกักตัว ชาวอุยกูร์ กลับไปประเทศต้นทาง
กมลศักดิ์เน้นย้ำการปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง โดยเฉพาะตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ซึ่งได้สอบถามหน่วยงานที่มาชี้แจงเรื่องแนวทางการปฏิบัติ และเหตุใดใน หน่วยงานจึง ระบุว่าไม่ทราบว่าจะมีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับหรือไม่ เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา โดยวันนี้ได้เชิญสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.), กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงยุติธรรม เข้าชี้แจง
“ประเด็นแรกที่เราตั้งคำถาม เราอยากรู้ว่าเหตุใดตอนนั้นหน่วยงานถึงปฏิเสธเรา และกระบวนการส่งกลับมีขั้นตอนอย่างไร ได้ปฏิบัติตามมาตรา 13, 22 และ 23 ของ พ.ร.บ.อุ้มหาย หรือไม่”
หน่วยงานที่เข้ามาชี้แจงเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ไม่ทราบจริงๆ ซึ่งมาทราบภายหลังว่า สมช. ได้มีการประชุมลับในเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่ 17 มกราคม และได้มีมติส่งตัวชาวอุยกูร์กลับ แต่ไม่แจ้งให้หน่วยงานทราบ และ สมช. เพิ่งมีการแจ้งกับ ตม. เรื่องการส่งตัวกลับ และสถานทูตจีนจะเข้าไปพบผู้ถูกกระทำที่ห้องกัก สำนักงาน ตม. สวนพลู เพื่อทำข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
กมลศักดิ์เปิดเผยว่า พฤติการณ์ที่เจ้าหน้าที่สถานทูตจีนเข้าไปทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ไม่มีเอกสารจาก ตม. มาแสดง คณะกรรมาธิการจึงมีมติให้ ตม. ส่งเอกสารดังกล่าว กรอบเวลาที่สถานทูตจีนได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนคลิปวิดีโอ และเอกสารแสดงความสมัครใจ กลับมายังคณะกรรมาธิการภายใน 15 วัน
ทั้งนี้ ตม. ได้ชี้แจงว่ากล้องในสถานที่กักตัว เป็นกล้องแบบ Real Time ไม่ได้มีการบันทึกภาพไว้ เพราะไม่มีงบประมาณ และเมื่อคณะกรรมาธิการถามว่า ตม. ได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย หรือไม่ และชาวอุยกูร์จะถูกกระทำย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือไม่เมื่อกลับไปถึงประเทศต้นทาง หน่วยงานที่ชี้แจงระบุว่า สมช. จะเป็นผู้พิจารณาเรื่องนี้ จึงไม่มีคำตอบให้
อีกทั้ง ตม. ยังระบุว่า กรณีนี้เป็นคนต่างชาติ ไม่จำเป็นต้องมีการบันทึกภาพ หรือทำตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย เรื่องนี้คณะกรรมาธิการเห็นแย้ง โดยหลังจากนี้ต้องทบทวนและพูดคุยกับระดับปฏิบัติงาน เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาเช่นนี้ตลอดไม่จบไม่สิ้น