ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนหดตัว 0.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า นับเป็นการลดลงต่ำกว่าศูนย์ครั้งแรกในรอบ 13 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านเงินฝืดที่ยังคงอยู่ในระบบเศรษฐกิจ แม้ว่าการลดลงจะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยฤดูกาลก็ตาม
ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ระบุว่า ตัวเลข CPI เดือนกุมภาพันธ์ลดลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่า CPI จะลดลงเพียง 0.4% ขณะที่เดือนก่อนหน้า CPI ยังเติบโตที่ 0.5%
แม้ตัวเลขดังกล่าวจะตัดเรื่องปัจจัยฤดูกาลออกแล้ว เงินเฟ้อของจีนก็ยังชะลอตัวอยู่ในระดับต่ำสุดรอบหลายเดือน โดย Goldman Sachs ชี้ว่าการลดลงของราคาบริการ และการหดตัวของเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน เป็นสัญญาณว่าการบริโภคในประเทศยังซบเซา
Core CPI ของจีน ลดลง 0.1% เป็นการติดลบครั้งแรกตั้งแต่ปี 2021 และเป็นเพียงครั้งที่สองในรอบกว่า 15 ปี ขณะที่ราคาสินค้าโรงงานยังคงอยู่ในภาวะเงินฝืดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 29
Zhiwei Zhang ประธานและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Pinpoint Asset Management ให้ความเห็นว่า “เศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญแรงกดดันจากภาวะเงินฝืด เนื่องจากอุปสงค์ในประเทศยังอ่อนแอ”
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนอธิบายว่าการลดลงของ CPI ได้รับอิทธิพลจากฐานที่สูงในปีก่อน เนื่องจากช่วงตรุษจีนที่มีการใช้จ่ายสูง ซึ่งในปีนี้ตรงกับปลายเดือนมกราคมถึงต้นกุมภาพันธ์ แตกต่างจากปีที่แล้วที่อยู่ในเดือนกุมภาพันธ์เต็มเดือน
นักวิเคราะห์คาดว่าเดือนมีนาคมจะเป็นจุดชี้วัดแนวโน้มเงินเฟ้อของจีน ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะสามารถกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศได้หรือไม่ ปัจจุบันเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ราคาสินค้าลดลงต่อเนื่องยาวนานที่สุดตั้งแต่ปี 1960 โดยมีปัจจัยจากกำลังซื้อที่อ่อนแอและวิกฤติภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด
จีนได้ตั้งเป้าเงินเฟ้อปี 2025 ไว้ที่ 2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี ลดลงจากเป้าเดิมที่ 3% สะท้อนว่าผู้นำจีนเริ่มตระหนักถึงปัญหาเงินฝืดที่กดดันเศรษฐกิจ โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา CPI เฉลี่ยอยู่ที่เพียง 0.2%
ในที่ประชุมสภาประชาชนประจำปีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (5 มีนาคม) จีนประกาศตั้งเป้าหมายเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% ในปี 2025 แม้ต้องเผชิญความเสี่ยงจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ขณะเดียวกันรัฐบาลยังได้เปิดแผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการการคลัง และส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม Bloomberg วิเคราะห์จากประมาณการงบประมาณของจีนว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ (แบบไม่ปรับอัตราเงินเฟ้อ) จะอยู่ที่ประมาณ 5% เท่ากับเป้าหมายเติบโตของรัฐบาล ซึ่งหมายความว่าผู้กำหนดนโยบายของจีนคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อโดยรวมอาจยังอยู่ในระดับต่ำมาก หรือแทบไม่มีเลย
อ้างอิง: