ทางการท้องถิ่นรัฐควิเบกของแคนาดาเปิดเผยว่า ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวและมีความชื้นสูงตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา จนอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นแตะ 35 องศาเซลเซียส (95 องศาฟาเรนไฮต์) จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 33 คน ตลอดช่วงสัปดาห์นี้ โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 50-80 ปี
ทางการเปิดเผยว่า นี่เป็นคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดของควิเบกในรอบหลายทศวรรษ โดยมอนทรีออล เมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐควิเบก เป็นเมืองที่มีผู้เสียชีวิตในขณะนี้มากที่สุดถึง 18 คน
ทางด้านจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาทวีตข้อความระบุว่า ‘ผมรู้สึกเสียใจกับข่าวการเสียชีวิตในควิเบกในช่วงสัปดาห์ที่ร้อนระอุนี้ คาดว่า อุณหภูมิที่ตรวจวัดได้นี้จะยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแถบภาคกลางและภาคตะวันออกของแคนาดา โปรดเตรียมตัวรับมือและหาวิธีป้องกันตัวคุณเองและครอบครัวของคุณ’
ขณะที่วาเลอรี ปลันเต้ (Valerie Plante) นายกเทศมนตรีเมืองมอนทรีออลระบุว่า ‘พวกเราจะทำทุกอย่างที่พวกเราทำได้’ โดยแนะนำให้ประชาชนดื่มน้ำมากๆ และอยู่ในพื้นที่ร่มในช่วงเวลานี้ ซึ่งทางการยังเปิดสระว่ายน้ำและเปิดห้องแอร์ไว้คอยบริการประชาชน รวมถึงจะมีการสำรวจตามแต่ละบ้านถึง 15,000 หลัง โดยเฉพาะบ้านของคนสูงอายุ เผื่อพวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ในปี 2010 ที่ผ่านมา คลื่นความร้อนเคยคร่าชีวิตชาวแคนาดาที่อาศัยอยู่ในเมืองมอนทรีออลไปมากกว่า 100 คน
อ้างอิง: