สถานการณ์เรื่องชาวอุยกูร์ในประเทศไทยทะยานขึ้นสู่ประเด็นระดับโลก หลังหลายประเทศออกแถลงการณ์ทั้งประณามและขอให้ทบทวนการดำเนินการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน
ตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ขบวนรถตู้ปิดเทปสีดำทึบเคลื่อนออกจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สวนพลู) ท่ามกลางกระแสข่าวลือส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีน ก่อนข่าวลือนั้นจะถูกยืนยันโดยการแถลงข่าวของฝั่งจีนเอง พร้อมภาพชาวอุยกูร์ที่ก้าวลงจากเครื่องบิน โดยมี ฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และ พล.ต.อ. ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ติดตามไปส่ง
รอมฎอน ปันจอร์ สส. พรรคประชาชน ยื่นญัตติด่วนเข้ามาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อระดมความคิดเห็นของฝ่ายนิติบัญญัติส่งเป็นข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล แม้จะมีเสียงทัดทานจาก สส. ฝ่ายรัฐบาล ว่าข่าวลือยังไม่ได้รับการยืนยัน จนมีการเปลี่ยนชื่อญัตติกลางคัน
ท้ายที่สุด ฝ่ายความมั่นคงของไทย นำโดย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งโต๊ะแถลงข่าวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (27 กุมภาพันธ์) ด้วยเหตุผลว่า “เรื่องนี้ดราม่ามันเยอะ นี่ขนาดยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ถล่มรัฐบาลจนจะพังอยู่แล้ว จึงได้รีบมาแถลงเพื่อให้รู้ข้อเท็จจริง”
ทั้งฝ่ายการเมืองและรองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองต่างยืนยันว่าชาวอุยกูร์ทุกคนที่ถูกส่งตัวกลับต่างเดินทางไปด้วยความสมัครใจ และไทยได้รับคำขออย่างเป็นทางการจากจีน พร้อมการยืนยันสัญชาติว่าทุกคนเป็นคนจีน และจะได้รับการดูแลอย่างดีในมาตุภูมิ จึงได้ดำเนินการ ส่วนที่ส่งตัวกลางดึกก็เพื่อความสงบเรียบร้อย
ฝ่ายความมั่นคงของไทยยังยืนยันด้วยว่า หลังจากนี้จะมีการเดินทางไปตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ของชาวอุยกูร์ที่จีนด้วยว่าปลอดภัยหรือไม่ โดยจะมีรัฐมนตรีหลายคนเวียนกันไปตรวจสอบ และในช่วงสัปดาห์แรกจะมอบหมายให้ พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นำคณะจากฝั่งไทยไป