Coca Cola Plus Coffee

เมื่อเครื่องดื่มยอดฮิตของโลกสองชนิดมาเจอกัน แน่นอนว่าจะต้องน่าจับตามองพอสมควรกับการหยิบเอา ‘โค้ก’ และ ‘กาแฟโรบัสต้าแท้’ มาผสมกันจนได้มาซึ่งรสชาติใหม่ของโค้กในชื่อ Coca Cola Plus Coffee ซึ่งเมื่อเปิดกระป๋องปุ๊บ กลิ่นกาแฟที่คุณคุ้นเคยจะลอยมาเตะจมูกทันที และเมื่อชิมจะได้รสชาติของโค้กที่ไม่เจือจาง ยังคงซาบซ่าเช่นเคย เพียงแต่จะมีรสชาติของกาแฟเข้ามาเสริมด้วย ซึ่งเป็นรสของกาแฟแบบหวานๆ คล้ายเวลาอมลูกอมโกปิโก้หรือดื่มกาแฟเบอร์ดี้ และรสชาติดังกล่าวมาจากการผสมกาแฟสำเร็จรูปเข้าไปเพียง 0.11% เท่านั้น

 

ถ้าหากอยากรู้สึกตื่นๆ คุณลองหยิบมาสักกระป๋องเพื่อเติมกาเฟอีนในร่างกาย และที่น่าสนใจคือหากเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มชูกำลังทั่วไป Coca Cola Plus Coffee นี้มีน้ำตาลราว 11 กรัมต่อ 1 กระป๋อง (พลังงาน 45 กิโลแคลอรีต่อปริมาณ 240 มิลลิลิตร)

 

 

Meiji Lactose Free

นมชนิดใหม่จากเครือซีพี-เมจิ ที่นำนมวัวไปผ่านกระบวนการย่อยสลายเอ็นไซม์แลคโตสเพื่อให้ได้มาซึ่งนมที่เขาขายตัวเองเต็มที่ว่าเป็น ‘ผลิตภัณฑ์นมปราศจากน้ำตาลแลคโตส’ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะช่วยให้น้ำตาลแลคโตสที่มีอยู่ปกติในน้ำนมเปลี่ยนรูปเป็นน้ำตาลโมเลกุลที่เล็กลงเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น เหมาะกับคนที่ดื่มนมวัวแล้วท้องเสีย ท้องอืด

 

เนื้อสัมผัสของนมขวดนี้ยังคงให้ความเข้มข้นเช่นเคย มีความครีมมี่นิดๆ และหอมหวานปะแล่มๆ (ส่วนเรื่องแลคโตสฟรี ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี เพราะผู้ลองชิมเองไม่ได้มีปัญหาท้องไส้เท่าไร) สิ่งที่ต้องดูไว้ให้เคลียร์คือเจ้านมขวดนี้มีไขมันอิ่มตัว 5 กรัมต่อ 220 มิลลิลิตร แต่มีให้เลือกหลายไซส์ ไม่ต้องห่วง (พลังงาน 240 กิโลแคลอรี เป็นพลังงานจากไขมัน 120 กิโลแคลอรีต่อปริมาณ 400 มิลลิลิตร)

 

 

Shizuoka

ฟังชื่อครั้งแรก แน่นอนว่าเราคิดถึงตัวละครชิซูกะจากเรื่อง โดราเอมอน ไปเสียอย่างนั้น และเมื่อเปิดฝาดื่ม Shizuoka ชาตัวใหม่จากชายคาบ้านอิชิตัน คุณจะได้รสชาติที่เข้มข้นและหอมอย่างน่าประหลาดใจ ซึ่งเขาใช้ใบชานำเข้า 100% จากเมืองชิซึโอกะ ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เมืองหลวงแห่งชาเขียว’ ความโดดเด่นของชาที่มาจากชิซึโอกะนี้คือชาที่ปลูกจากผืนดินที่อุดมด้วยแร่ธาตุและน้ำจากหิมะละลายของภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนั้นชาขวดนี้ยังเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมผู้ส่งออกชาจังหวัดชิซึโอกะอย่างเป็นทางการอีกด้วย

 

ชิซึโอกะออกผลิตภัณฑ์ 2 รสชาติ โดยมีกลิ่นและรสชาติเฉพาะตัว ซึ่งหากคุณเป็นคนไม่ชอบหวาน เราแนะนำให้เลือกแบบ No Sugar Added ซึ่งเป็นส่วนผสมจากน้ำชาเขียว 99.9% และไม่หวานเลย! แต่ทั้งนี้ชาขวดนี้ยังให้ปริมาณกาเฟอีนราว 9.13 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร (พลังงาน 0 แคลอรีต่อปริมาณ 440 มิลลิลิตร)

 

 

HBD Sparkling

หนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ชาวทวิตเตอร์ในแฮชแท็ก #อร่อยไปแดก ฮือฮาพอสมควรคือเจ้า HBD Sparkling ขวดนี้ ซึ่งเป็นน้ำสีใสเหมือนน้ำเปล่าปกติทั่วไป แต่แต่งกลิ่นและรสให้ออกมาเป็น 3 รสชาติได้อย่างน่าสนใจและน่าตื่นเต้น ทั้งรสพีช โคล่ามะนาว และเลมอน ซึ่งดูแล้วจะคล้ายๆ ผลิตภัณฑ์ของเครือซันโตรีจากญี่ปุ่นที่เคยผลิตอิงลิชทีและชามะนาวในรูปแบบน้ำใสเช่นนี้มาแล้ว แต่ความแตกต่างคือ HBD Sparkling นี้มีการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ให้เครื่องดื่มมีความซ่า

 

รสที่เราชื่นชมที่สุดคงเป็นรสพีชที่กลิ่นและรสชาตินั้นโดดเด่นมาก ส่วนรสโคล่ามะนาวนั้นมีความเป็นโคล่าอยู่เจือจาง แต่มีกลิ่นมะนาวที่ช่วยเสริมรสให้ดูน่าสนใจ ส่วนเจ้าขวดเหลืองเลมอนนั้น รสชาติของเลมอนนั้นเบาบาง โดดเด่นด้วยกลิ่น ซึ่งหากคนที่ไม่คุ้นเคยกับน้ำดื่มมีฟองอาจจะไม่ชอบใจเท่าไร (พลังงาน 0 แคลอรีต่อปริมาณ 330 มิลลิลิตร หาซื้อได้เฉพาะในแฟมิลี่มาร์ทหรือท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น)

 

 

Dalum Yogurt

ต้องสารภาพก่อนว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้ออกใหม่แต่อย่างใด เพราะเราซื้อมาผิดขวด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแบรนด์ Dalum นี้เพิ่งจะวางขาย ‘นมน้ำผึ้ง’ ไปหยกๆ ซึ่งหากมีโอกาสคราวหน้าเราจะซื้อมาชิมดูสักครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนมเปรี้ยวโยเกิร์ตพร้อมดื่ม 3 ขวดนี้คือรสชาติที่น่าสนใจที่สุดในบรรดาเครื่องดื่มมากมายในการลองชิมครั้งนี้

 

Dalum ผลิตจากน้ำนมโคแท้ซึ่งผ่านกระบวนการจนกลายเป็นเครื่องดื่มที่มีรสสัมผัสแปลก ไม่ข้นและไม่เหลวจนเกินไป ดื่มได้ง่าย ทั้งยังมาในแพ็กเกจที่ออกแบบมาคล้ายถังนมวัวก็มีความน่ารักพอตัว ซึ่ง Dalum นี้มีทั้งหมด 3 รสชาติ ทั้งรสโยเกิร์ตแท้ รสพร่องมันเนย และที่เราชื่นชอบที่สุดคงจะเป็นรสที่ผสมน้ำส้มลงไป โดยใช้น้ำส้มแท้ถึง 14% เพื่อให้ได้รสชาติที่แตกต่าง ให้ความหวานบางๆ ของน้ำส้มตัดกับความเปรี้ยวของโยเกิร์ตได้อย่างน่าชื่นชม

 

 

3 แบรนด์นี้น่าลอง

อีก 3 ผลิตภัณฑ์ที่บางขวดอาจวางขายมาสักพักแล้ว แต่เราคิดว่ายังคงมีความน่าสนใจในแง่ที่ผลิตภัณฑ์เองยังไม่ได้มีการถูกนำเสนออย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ Lipton ชาเขียวกลิ่นมะม่วงใบเตย, Cocomax น้ำมะพร้าวผสมน้ำลิ้นจี่ และ Eden เลมอนเนดผสมบุก

 

ในส่วนของ Lipton รสล่าสุดนี้ หากใครชอบมะม่วงคงจะเฮลั่น เพราะกลิ่นนั้นหอมมะม่วงสุกจริงๆ ส่วนใครที่ชอบกลิ่นใบเตยอาจต้องหัวเสียสักนิด เพราะกลิ่นของใบเตยนั้นเจือจางมากจนแทบแยกไม่ออกจากกลิ่นของชาเขียว (พลังงาน 100 กิโลแคลอรีต่อปริมาณสุทธิ 400 มิลลิลิตร)

 

 

ส่วน Cocomax ที่นำเอาน้ำมะพร้าว 100% จุดขายเด่นที่สุดของแบรนด์มาผสมกับน้ำลิ้นจี่ก็ได้ผลลัพธ์ที่น่างุนงง และเราอยากให้คุณลองไปหาดื่มเองดูสักครั้ง เนื่องด้วยลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีกลิ่นและรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นเมื่อมาผสมกับน้ำมะพร้าว รสชาติความเปรี้ยวของลิ้นจี่เองก็จะจืดจางไป ส่วนน้ำมะพร้าวที่มีรสชาติดีเป็นตัวตั้งเองก็หมดราศีไปด้วยรสชาติของน้ำลิ้นจี่ (พลังงาน 100 กิโลแคลอรีต่อปริมาณสุทธิ 350 มิลลิลิตร)

 

ถ้าคุณรู้ตัวว่าเป็นคนลิ้นบอบบางจากความเปรี้ยว แนะนำให้หลีกเลี่ยง Eden เลมอนเนด เพราะน้ำเลมอนขวดนี้เปรี้ยวมาก! เปรี้ยวประหนึ่งยกเลมอนทั้งสวนมาไว้ในปาก ทั้งนี้ที่มันเปรี้ยวขนาดนั้นเพราะว่าเขาผลิตจากเลมอน 100% ทั้งยังใช้หญ้าหวานเป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล พร้อมใส่เนื้อบุกกรุบๆ ไว้ให้ได้เคี้ยวเพลินๆ อีกด้วย อยากเติมวิตามินซีให้ร่างกายแบบเข้มข้นก็ลองหาดื่มกันดูได้ (พลังงาน 0 แคลอรีต่อปริมาณสุทธิ 200 มิลลิลิตร)