ชีวิต | รัก | นักกีฬา (4) ความลับในความรักของ เดวิด และ วิกตอเรีย เบ็คแฮม

เกมฟุตบอลจบลงไปสักพักแล้ว แต่ในห้องหนึ่งของสนามโอลด์แทรฟฟอร์ดยังคงมีผู้คนที่ไม่ยอมกลับไปไหนง่ายๆ

ในห้องนั้นแท้จริงแล้วคือ Players’ Lounge ที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับเหล่านักเตะที่เพิ่งผ่านการทำศึกและสงครามบนสนามหญ้ามาหมาดๆ และเป็นโอกาสสำหรับแขกที่อาจจะเป็นญาติ คนใกล้ชิด หรือบุคคลสำคัญ ที่ได้พบปะทำความรู้จักผ่านเครื่องดื่มเย็นๆ กัน

แล้วสายตาของเด็กหนุ่มก็มองเห็นหญิงสาวคนเดียวที่เขามองหามาตลอด

“วันนั้นเธอมาดูฟุตบอลด้วย ผมเห็นเธอและตะโกนทักเธอจากอีกมุมของห้อง แล้วเรื่องก็จบแค่นั้น” เดวิด เบ็คแฮม ยังคงจำเรื่องราวในวันนั้นได้เป็นอย่างดี และเล่าในรายการ The Ellen DeGeneres Show

ในความรู้สึกนั้นเขาเชื่อว่าเขาคงพลาดโอกาสที่จะคว้าหัวใจของเธอไปแล้ว แต่ลึกๆ แล้วคนที่เขาอยากทำความรู้จักด้วยไม่ใช่หญิงสาวธรรมดา เธอคือ ‘Posh Spice’ วิกตอเรีย อดัมส์ หนึ่งในสมาชิกวง Spice Girls ที่โด่งดังไปทั้งโลก

และเขาก็เคยยอมรับกับเพื่อนว่าเขาอยากแต่งงานกับเธอ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักเธอเลย

แต่เด็กหนุ่มที่ยังไม่ถึงกับเป็นสตาร์ของทีมอย่างเขาจะไปหวังอะไร?

เพียงแต่เป็นเขาเองที่ไม่รู้สักนิดว่าอีกฟากหนึ่งของห้องนั้น เธอเองก็ตกหลุมรักเด็กหนุ่มที่มีรอยยิ้มสดใสคนนั้นเหมือนกัน และหัวใจของเธอมันร่ำร้อง “รักแรกพบมีอยู่จริงๆ ด้วย”

จากคำทักทายข้ามห้องของเดวิดในวันนั้นที่เขาคิดว่าคงจะหมดหวังเสียแล้ว แต่ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาวิกตอเรียได้กลับมาที่โอลด์แทรฟฟอร์ดอีกครั้ง (พร้อมกับ Mel C สปอร์ตเกิร์ลที่เป็นแฟนบอลของลิเวอร์พูลตัวยง)

คราวนี้เดวิดรู้ดีว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปอย่างแน่นอน จึงรวบรวมความกล้าและเดินหน้าไปพูดคุยกับเธอที่รัก

โดยที่ไม่รู้สักนิดว่าทั้งหมดอยู่ในความคิดของสาวน้อยคนนี้แล้ว

ในจดหมายที่วิกตอเรียเขียนถึงตัวเองในวัยเยาว์ให้แก่นิตยสาร Vogue เธอบอกกับตัวเองในวัย 18 ปีว่า “ฉันสัญญากับเธอเลย รักแรกพบนั้นมีอยู่จริง และเธอจะพบมันที่เลานจ์ของนักเตะทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงแม้ว่าเธอจะดื่มจนมึนนิดหน่อยและรายละเอียดมันอาจจะไม่ชัดเจนนักก็ตาม”

จดหมายน้อยนั้นเล่าต่อว่า “ในขณะที่นักฟุตบอลคนอื่นๆ ยืนอยู่ที่บาร์เพื่อดื่มกับเพื่อนของพวกเขา เธอจะได้เห็นเดวิดยืนอยู่ใกล้ๆ กับครอบครัวของเขา (ตอนนั้นเขายังไม่ได้เป็นทีมชุดใหญ่ดีด้วย ส่วนเธอน่ะโด่งดังแล้ว) เขามีรอยยิ้มที่น่ารักมาก เธอเองก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกับครอบครัวเหมือนกันและเธอจะเริ่มคิดว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเธอ”

ข้อความในจดหมายน้อยนี้เป็นอีกครึ่งหนึ่งของเรื่องราวความรักที่ยืนยาวระหว่างเธอและเขา วิกตอเรีย กับ เดวิด เบ็คแฮม ที่น่าประทับใจ เพราะปกติแล้วคนที่ออกมาพูดบ่อยในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน ไม่ใช่เธอแต่เป็นเขาเสียมากกว่า

“เราคุยกันร่วมชั่วโมงเลยก่อนที่เธอจะกลับ ซึ่งเธอขึ้นเครื่องบินเพื่อมาที่สนามในวันนั้น เธอจึงเขียนเบอร์โทรศัพท์ของเธอไว้ให้ผมบนตั๋วเครื่องบิน” เขาให้สัมภาษณ์ในรายการ The Tonight Show ของ จิมมี่ ฟอลลอน

“และผมก็ยังคงเก็บมันไว้อย่างดี”

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ต้นรักต้นนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทั้งคู่ แม้ว่าจะต้องพยายามอย่างหนักหน่วงเพื่อประคับประคองไว้

พยายามแค่ไหน?

เดวิดเป็นพ่อหนุ่มคลั่งรักคนหนึ่งที่ขอแค่ได้มีเวลาเถอะ เขาพร้อมจะโทรหาวิกตอเรียตลอดเวลา เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยและยืนยันจาก แกรี เนวิลล์ เพื่อนสนิทที่รู้ทุกอย่างเป็นอย่างดี

“เขาโทรศัพท์หาวิกตอเรียทุกวินาที และจะคุยกันอยู่อย่างนั้นจนถึงเที่ยงคืน”

แต่แค่ได้ยินเสียงก็ยังไม่พอให้คลายความคิดถึง เดวิดพร้อมจะซิ่งรถจากเมืองแมนเชสเตอร์ลงใต้ไปหาวิกตอเรียที่ลอนดอน

ระยะทางที่ห่างกันอยู่ราว 4 ชั่วโมง 20 นาที เพียงเพื่อจะได้พบกันเป็นเวลาสั้นๆ

“ผมไม่สนใจหรอกว่าผมจะได้เจอเธอเมื่อไรหรือได้เจอเธอกี่นาที ต่อให้ต้องขับมาลอนดอนเพื่อเจอกันแค่ 7 นาทีผมก็จะทำ”

ทั้งคู่จะนัดพบกันในรถ BMW ที่เดวิดซื้อมาด้วยเงินที่ได้รับจาก adidas ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ใหญ่รายแรกในชีวิตของเขา (และยังคงเป็นผู้สนับสนุนเขามาตลอดชีวิต) โดยรถจะจอดอยู่ในลานจอดรถเงียบๆ สักแห่งที่ไกลสายตาผู้คน เพื่อไม่ให้เป็นข่าว

ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ นั้นคือห้วงนิรันดร์ของทั้งคู่

จูบแรกก็เกิดขึ้นในรถคันนี้

แต่ความคลั่งรักนี้ก็ทำให้หลายคนเป็นกังวลว่าจะพากันเสียคนไหม ไม่ว่าจะทางฝั่งครอบครัวเบ็คแฮมที่เฝ้าประคบประหงมลูกชายคนนี้มาอย่างดีตลอดเวลา แม่ของเขาเป็นห่วงถึงขั้นต้องมานอนเฝ้า และไม่ค่อยชอบใจนักที่วิกตอเรียมักจะโทรมาหาเดวิดตอนตี 3 แต่ก็ไม่รู้จะห้ามลูกอย่างไร

ขณะที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่เคยมั่นใจในความรักของทั้งสองคนเลย เดวิดก็ยอมรับว่าบรมกุนซือชาวสกอตแลนด์ผู้เปรียบเป็นเหมือนพ่ออีกคนอยากให้เขาใส่ใจกับเรื่องการเป็นนักฟุตบอลเท่านั้น และอยากให้แต่งงานกับสาวชาวบ้านธรรมดามากกว่าซูเปอร์สตาร์อย่างวิกตอเรีย

โดยที่เดวิดเองก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน จากนักฟุตบอลคนหนึ่ง เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์และคิดถึงโอกาสและสิ่งที่เขาจะสามารถทำได้หลังชีวิตการเล่นฟุตบอล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีนักฟุตบอลคนไหนในเวลานั้นคิดทำมาก่อน

ไม่ใช่แค่เซอร์อเล็กซ์ที่คิด ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพราะนังผู้หญิงนักร้องคนนี้แน่ที่ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงไป

เพียงแต่จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้วในตอนนี้ เพราะทั้งสองประคองความรักกันมาได้ ผ่านความยากลำบากทั้งหลายทั้งปวงมาได้ทุกอย่าง จนถึงวันนี้ก็ 26 ปีแล้ว นับจากวันวิวาห์เมื่อฤดูร้อนปี 1999 ที่ปราสาทลุตเทรลส์ทาวน์ ไม่ไกลจากกรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์

ลูกๆ ทั้ง 4 คน บรูกลิน โจเซฟ, โรมีโอ เจมส์, ครูซ และลูกสาวคนแรกที่เป็นลูกคนสุดท้ายของบ้าน ฮาร์เปอร์ เซเวน เติบโตกันมาอย่างดีและมีความสุข

คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ เธอและเขาผ่านทุกอย่างมาได้อย่างไร? ไม่ใช่แค่เรื่องของสถานะทางสังคมที่ถูกจับจ้อง แต่ยังมีเรื่องของหน้าที่การงาน รวมถึงกระแสโจมตีหนักหนาสาหัส โดยเฉพาะกับเดวิดที่เคยเป็นผู้ร้ายในสายตาคนทั้งชาติในช่วงฟุตบอลโลก 1998

ความรักที่ไม่มีใครเห็นด้วยเลย

แต่ในความลับของความรักสำหรับทั้งสองนั้นไม่ได้มีอะไรยากหรือซับซ้อน

“เรารักกัน ดูแลกันและกัน” วิกตอเรียบอก

ส่วนเรื่องปัญหาระหองระแหงความต่างในความเห็นของการใช้ชีวิตนั้นมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา “ถามว่าฉันต้องผ่านช่วงที่ยากลำบากมาบ้างไหม? แน่นอนมันต้องมีอยู่แล้ว มันคือส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ มันคือส่วนหนึ่งของชีวิตการแต่งงาน” ครั้งหนึ่งในปี 2018 วิกตอเรียต้องออกมาสยบกระแสข่าวการหย่าร้างแทบจะทันที ด้วยการแชร์ภาพของเธอและฮาร์เปอร์ พร้อมข้อความบอกว่าทั้งคู่คิดถึงพ่อแค่ไหน

สิ่งที่วิกตอเรียเน้นย้ำคือ “สุดท้ายแล้วมันคือเรื่องของครอบครัว เราเคารพในสายใยของครอบครัว และนี่คือสิ่งที่เป็นกุญแจสำคัญในความสัมพันธ์”

และในความรู้สึกของเธอ คนรักของเธอผู้เคยเป็นถึงอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ คือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต

ขณะที่เดวิดบอกว่า สำหรับเขาแล้วชีวิตคู่คือการทำงานหนัก (Hard Work) ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่ต้องพยายามอย่างหนักตลอดทุกวันและทั้งวัน

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของเขาคือ ไม่ว่าจะยากหรือลำบากสักแค่ไหน อย่างน้อยเขาก็ยังมีเธอและเธอก็ยังมีเขา เรามีกันและกัน

ไม่ว่าอะไรก็จะผ่านไปได้ทั้งนั้น

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้รักแรกพบของทั้งสองคนนั้นยังคงหวานชื่น

มันอาจจะไม่หวานจัดตัดขาเหมือนครั้งยังเป็นวัยรุ่น แต่ก็เป็นความหวานที่กำลังดีต่อใจ

รักเราไม่เก่าเลย

อ้างอิง: