วันนี้ (6 กุมภาพันธ์) แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เจ้าพบหารือกับ จ้าวเล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยประธานสภาฯ กล่าวแสดงความยินดีที่นายกรัฐมนตรีได้มาเยือนจีนในช่วงเวลาสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นปีที่ไทยกับจีนฉลองครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
ปัจจุบันจีนส่งเสริมการพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพสูง ซึ่งสร้างโอกาสให้กับประเทศไทยด้วย จีนพร้อมสนับสนุนให้บริษัทที่มีเทคโนโลยีสูงเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเดินทางระหว่างประชาชนและการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงภัยออนไลน์ พร้อมร่วมมือกับไทยพัฒนากรอบความร่วมมือในระดับภูมิภาคและการแลกเปลี่ยนด้านนิติบัญญัติ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่สำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ
ด้านนายกรัฐมนตรียืนยันว่า รัฐบาลไทยยึดมั่นในหลักการ ‘จีนเดียว’ และพร้อมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติไทย-จีน เชื่อว่าในโอกาสพิเศษของการเฉลิมฉลองปีทองแห่งมิตรภาพไทย-จีนในปีนี้ จะมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระดับสูงระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง และขอบคุณที่ให้การสนับสนุนการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ประเทศไทย และเตรียมพร้อมต้อนรับทูตสันถวไมตรีแพนด้ายักษ์
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยพร้อมดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือในระดับประชาชน โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มคนรุ่นใหม่ การให้ทุนการศึกษา และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ไทยยังรอต้อนรับการเยือนของประธานสภาประชาชนแห่งชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการเยือนครั้งแรกในรอบ 14 ปี และจะมีส่วนช่วยเพิ่มพูนความเชื่อใจระหว่างกันอีกด้วย
วางพวงมาลา ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน จัตุรัสเทียนอันเหมิน
ก่อนจะหารือกับ Jia Shao Qian, Chairman บริษัท Hisense Group ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของจีน ยืนยันว่ารัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนการขยายการลงทุนของบริษัทฯ และหวังว่าบริษัทฯ จะพิจารณาใช้ชิ้นส่วนในประเทศควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งแล้ว ยังจะช่วยให้การลงทุนของบริษัทฯ ในไทยเติบโตอย่างยั่งยืน โดย BOI พร้อมสนับสนุนบริษัทฯ ผ่านกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศที่มีศักยภาพ
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า แรงงานไทยมีประสบการณ์และทักษะ เชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของบริษัทฯ ได้ โดย BOI พร้อมเป็นหน่วยงานกลางในการประสานงาน
หนุน Xiaomi ขยายการลงทุนเพิ่มในไทย
ต่อมานายกรัฐมนตรีได้หารือกับ Alain Lam, CFO และ Vice President บริษัท Xiaomi Corporation ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังว่าบริษัทฯ จะพิจารณาให้ไทยเป็นฐานสำคัญของบริษัทฯ หรือพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนตลาด IoT และอุปกรณ์อัจฉริยะในประเทศไทยและตลาดอาเซียน
ด้านผู้บริหารบริษัทฯกล่าวว่า บริษัทฯ สามารถทำยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าได้จำนวนมากนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก (SU7) เมื่อเดือนมีนาคม 2024 โดย BOI กล่าวว่า ไทยมีอัตราการใช้รถยนต์ไฟฟ้าสูงที่สุดในอาเซียน มีระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง รวมทั้งนโยบายรัฐบาลที่เอื้ออำนวยและห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่ง จึงหวังว่าบริษัทฯ จะพิจารณาจัดตั้งโรงงานแห่งแรกในต่างประเทศที่ประเทศไทย รวมถึงกิจกรรม R&D ที่มุ่งพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญ เพื่อสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนในประเทศไทย
เชื่อสินค้าไทย-จีนเติบโตขึ้นกว่าเดิม
นายกรัฐมนตรีหารือหอการค้าไทยในจีน พร้อมกล่าวชื่นชมบทบาทของสมาชิกหอการค้าไทยในจีน ที่มีส่วนช่วยส่งเสริมความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับจีนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไทยพร้อมในการส่งเสริมการค้า โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งเสนอและผลักดันให้ไทยและจีนเร่งร่วมมือกันในการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งการกำกับดูแลมาตรฐานความปลอดภัยของสินค้า