หลายประเทศทั่วโลกต่างมุ่งสู่ถนนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) บางประเทศเพิ่งเริ่มต้น บางประเทศกำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ขณะที่นอร์เวย์เป็นประเทศที่เริ่มใช้ EV มาเป็นเวลาเกือบ 2 ทศวรรษแล้ว ด้วยนโยบายส่งเสริมการใช้ EV ของภาครัฐและการผนึกกำลังภาคเอกชน
ล่าสุดนอร์เวย์เตรียมเป็นประเทศแรกในโลกที่จะเลิกใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินและดีเซลอย่างเต็มตัว แม้จะมีน้ำมันและก๊าซสำรองจำนวนมาก แต่ประเทศนอร์ดิกแห่งนี้ก็ได้รับการยอมรับมายาวนานว่าเป็นผู้นำระดับโลกด้านการขนส่งอย่างยั่งยืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
โดยน่าสนใจว่ายอดขาย EV เพิ่มขึ้นจากไม่ถึง 1% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในปี 2010 เป็น 88.9% เมื่อปี 2024 และแนวโน้มนี้ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลงแต่อย่างใด
ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานทางหลวงสาธารณะของนอร์เวย์ ระบุว่า EV คิดเป็นมากกว่า 96% ของรถยนต์ใหม่ที่ขายในช่วงไม่กี่สัปดาห์แรกของปี 2025 ส่งผลให้นอร์เวย์เกือบจะกลายเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมดแล้ว โดยบรรลุเป้าหมายด้วยมาตรการที่ไม่ใช่ภาคบังคับ ซึ่งกำหนดไว้โดยสมาชิกรัฐสภาเมื่อปี 2017
Christina Bu เลขาธิการสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งนอร์เวย์ (NEVA) คาดว่านอร์เวย์จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ และขณะนี้นอร์เวย์มีแผนจัดงานเฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ครั้งนี้แล้ว
Cecilie Knibe Kroglund รองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของนอร์เวย์ กล่าวว่า นโยบายระยะยาวและนโยบายที่สอดคล้องกันได้ถูกออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการใช้ EV แทนที่จะกำหนดมาตรการห้ามใช้รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในนั้น “ถือเป็นจุดเปลี่ยนผ่านของประเทศ”
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สหภาพยุโรปได้ออกกฎหมายห้ามขายรถยนต์ใหม่ที่ปล่อยคาร์บอนตั้งแต่ปี 2035 ขณะที่สหราชอาณาจักรออกมาประกาศว่าจะห้ามขายรถยนต์ใหม่ที่ใช้พลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2030
ส่องมาตรการจูงใจใช้ EV ของรัฐบาลนอร์เวย์
สำหรับมาตรการจูงใจกระตุ้นการใช้ EV ของนอร์เวย์ มีทั้งการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ส่วนลดภาษีถนนและภาษีที่จอดรถ และการเข้าถึงช่องทางเดินรถโดยสารประจำทาง รัฐบาลยังได้ลงทุนอย่างหนักในโครงสร้างพื้นฐาน การชาร์จสาธารณะ และครัวเรือนจำนวนมากของนอร์เวย์สามารถชาร์จรถยนต์ของตนเองที่บ้านได้
Kroglund กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวว่าเป็น New Normal สำหรับประเทศที่มีประชากร 5.5 ล้านคน เนื่องจากมองว่าการขนส่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เขายังกล่าวว่าประเทศมีแผนที่จะเปลี่ยนไปใช้รถบัสไฟฟ้าในเมืองอย่างเต็มรูปแบบในปี 2025 ในขณะเดียวกันก็ทำให้ยานยนต์บรรทุกหนักใช้พลังงานหมุนเวียน 75% ภายในสิ้นทศวรรษนี้
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ใหม่ในนอร์เวย์จะเป็น EV เกือบ 100% แต่ก็ยังมีรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในอยู่มากมายบนท้องถนน รถยนต์ในประเทศประมาณ 28% เป็น EV ล้วน แม้ว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 40% ในเมืองหลวงอย่างออสโลก็ตาม
ขณะที่นอร์เวย์พยายามจะเปลี่ยนเป็น EV ทั้งหมด ยอดขาย EV ในสหรัฐอเมริกาในปี 2024 คิดเป็น 8.1% ของยอดขายรถยนต์รวมทั้งหมด ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจาก 7.8% ในปี 2023 ส่วนในสหราชอาณาจักร EV คิดเป็นเกือบ 20% ของการจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ในปี 2024
อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้นอร์เวย์พบแหล่งแร่หายากใหญ่สุดในยุโรป ซึ่งคาดว่าจะเริ่มขุดได้ในปี 2030
อย่างไรก็ตาม แม้อุตสาหกรรมแร่หายากอาจไม่ได้มีมูลค่ามากเท่ากับอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันและก๊าซของนอร์เวย์ แต่ในอนาคตอุตสาหกรรมแร่หายากจะมีความสำคัญมากกว่าอุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันและก๊าซอย่างแน่นอน
ภาพ: George Pachan touris / Getty Images
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2025/01/28/norway-set-to-be-the-first-to-fully-transition-to-electric-vehicles.html
- https://www.washingtonpost.com/climate-solutions/2024/09/17/norway-electric-vehicles-exceed-gasoline/
- https://www.cnbc.com/2024/06/11/norway-discovers-europes-largest-deposit-of-rare-earth-metals.html