โอมาร์ มาร์มูช แนวรุกวัย 25 ปีของทีมชาติอียิปต์ กลายเป็นแข้งใหม่รายที่ 3 ที่ถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดึงมาร่วมทีมในช่วงตลาดฤดูหนาว (มกราคม 2025) ต่อจาก 2 กองหลังดาวรุ่งอย่าง อับดูโกดีร์ คูซานอฟ จากล็องส์ และ วิตอร์ เฮส จากทีมพัลไมรัส
🔊 รายละเอียดของดีล
มาร์มูชย้ายจากไอน์ทรัคท์ แฟรงก์เฟิร์ต ทีมในบุนเดสลีกา มาอยู่กับแมนฯ ซิตี้ ในราคา 75 ล้านยูโร (ราว 2,651 ล้านบาท) กับสัญญา 4 ปีครึ่ง หรือจนถึงเดือนมิถุนายน 2029 พร้อมสวมเสื้อหมายเลข 7 (เจ้าของเบอร์คนเก่าคือ ชูเอา คันเซโล)
⚽ เส้นทางชีวิตลูกหนัง
มาร์มูชค้าแข้งอยู่ในลีกบุนเดสลีกาเป็นเวลาร่วม 8 ปี โดยส่วนใหญ่ได้โอกาสลงเล่นกับโวล์ฟสบวร์ก ตั้งแต่ชุดอะคาเดมี ทีมสำรอง มาจนถึงทีมชุดใหญ่ ซึ่งได้ลงเล่นไปทั้งสิ้น 48 นัด ยิงได้ 6 ประตู และระหว่างทางเคยถูกส่งยืมตัวกับ ซังต์ เพาลี และสตุ๊ตการ์ต ก่อนย้ายไปอยู่กับแฟรงก์เฟิร์ตแบบไร้ค่าตัวในปี 2023
แค่ฤดูกาลแรกกับเหยี่ยวแดง มาร์มูชก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมในแผงเกมรุก ก่อนจะเล่นให้ทีมได้ 1 ฤดูกาลครึ่ง แต่สามารถลงสนามช่วยทีมมากถึง 67 นัด ยิงไป 37 ประตู กับอีก 20 แอสซิสต์ และมาเปิดตัวกับแมนฯ ซิตี้ ในตอนนี้
และในส่วนของทีมชาติอียิปต์ ลงสนามไปแล้ว 35 นัด ยิงได้ 6 ประตู
🔥 ผลงานสุดปังที่ทำให้เรือใบยอมทุ่มเงินสู่ขอ
ความปังแบบเหนือชั้นคือผลงานในครึ่งฤดูกาล 2024/25 หลังจากมาร์มูชโชว์ลีลาบรรเลงเพลงแข้งให้แฟรงก์เฟิร์ตไป 26 นัด แต่กลับมีส่วนร่วมกับประตูมากถึง 34 ลูก (แบ่งเป็น ยิง 20 ประตู และอีก 14 แอสซิสต์) และผลจากความร้อนแรงนี้ทำให้แฟรงก์เฟิร์ตรั้งอันดับ 3 ในตารางบุนเดสลีกา และกำลังไปได้สวยในยูโรปาลีก
🗣️ ความรู้สึกหลังได้เข้าร่วมแมนฯ ซิตี้
ช่วงหนึ่งหลังการเปิดตัว มาร์มูชกล่าวว่ากับสื่อของสโมสรว่า “นี่คือวันที่ผมจะไม่มีวันลืม การเซ็นสัญญากับแมนฯ ซิตี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลกเป็นความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์มาก ผมรู้สึกยินดี ครอบครัวของผมภูมิใจมาก และพวกเราทุกคนมีความสุขมากที่ได้อยู่ที่นี่ในแมนเชสเตอร์
“กับเป๊ป (กวาร์ดิโอลา) รวมถึงทีมงานของเขา และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก นักเตะที่นี่มีทุกสิ่งที่ต้องการเพื่อพัฒนาตัวเอง นั่นเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผมมากเมื่อมีโอกาสมาที่นี่
“และผมจะไม่ปฏิเสธว่า ‘ผมต้องการคว้าถ้วยรางวัล’ แมนฯ ซิตี้ เป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอังกฤษตลอดหลายปีหลัง ดังนั้นผมรู้ว่าผมกำลังเข้าร่วมกับสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมแห่งชัยชนะ ผมอยากเรียนรู้จากทีมงานและเพื่อนร่วมทีม และผมอยากเป็นสมาชิกที่มีค่าของทีมแห่งชัยชนะนี้
“ผมตั้งตารอที่จะได้เริ่มต้น พบปะกับผู้เล่นคนอื่นๆ และแสดงให้แฟนบอลแมนฯ ซิตี้ เห็นถึงสิ่งที่ผมทำได้”
ทั้งนี้ แมนฯ ซิตี้ มีโปรแกรมลงทำศึกบิ๊กแมตช์ในเกมลีกนัดถัดไปกับเชลซี วันที่ 26 มกราคม เวลา 00.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
อ้างอิง: